เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ประเสริฐ อุ่นศิวิไลย์' อดีตผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอนแก่น ขออนุมัติเดินทางไปราชการในประเทศ แต่ไปท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี 18 เดือน พวกอีก 7 รายโดนด้วย 6 ปี 6 เดือน, 4 ปี 12 เดือน, 20 ปี 60 เดือน ,3 ปี 4 เดือน แต่ได้รอลงอาญา -ป.ป.ช.เห็นควรอุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายประเสริฐ อุ่นศิวิไลย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น และพวก กับพวก คือ นายชัชวาล ศรีสวัสดิ์ นายสุวัตร คำสวัสดิ์ นายภวัต ณรงค์ธนชิต นายวริษฐ์ รัชตเมธี นายทูล หาวิชา นายสมภพ อัมวงศา นางเบญจวรรณ ทวีวงศ์ ขออนุมัติเดินทางไปราชการภายในประเทศ แต่เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 มาตรา 11 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2565
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายประเสริฐ อุ่นศิวิไลย์ จำเลยที่ 1 ถึงนายชัชวาล ศรีสวัสดิ์ จำเลยที่ 2 นายสุวัตร คำสวัสดิ์ จำเลยที่ 3 นายภวัต ณรงค์ธนชิต จำเลยที่ 4 นายวริษฐ์ รัชตเมธี จำเลยที่ 5 นายทูล หาวิชา จำเลยที่ 6 นายสมภพ อัมวงศา จำเลยที่ 7 มีความผิดตามมาตรา 8, 11 เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 8 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตาม ป.อ. มาตรา 90 ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 21,000 บาท
2. จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 ให้ จำคุกคนละ 5 ปี และปรับคนละ 21,000 บาท
3. การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 5 และที่ 7 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ. มาตรา 91
จำเลยที่ 1 รวมสามกระทงเป็นจำคุก 15 ปี และปรับ 63,000 บาท
จำเลยที่ 5 รวมสองกระทงเป็นจำคุก 10 ปี และปรับ 42,000 บาท
จำเลยที่ 7 รวมสิบกระทงเป็นจำคุก 50 ปี และปรับ 210,000 บาท
นางเบญจวรรณ ทวีวงศ์ จำเลยที่ 8 มีความผิดตามมาตรา 8 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 เป็นความผิดหมายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ. มาตรา 91 ให้จำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน และปรับกระทงละ 14,000 บาท รวมสองกระทงเป็นจำคุก 6 ปี 8 เดือน และปรับ 28,000 บาท
4. จำเลยทั้งแปด ให้การรับสารภาพและคืนเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการแก่ผู้เสียหายจนครบถ้วนแล้ว แสดงว่า จำเลยทั้งแปดรู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้นทั้งเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานหรือให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตาม ป.อ.มาตรา 78 เห็นสมควรลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน และปรับกระทงละ 10,500 บาท
นายชัชวาล ศรีสวัสดิ์ จำเลยที่ 2 นายสุวัตร คำสวัสดิ์ จำเลยที่ 3 นายภวัต ณรงค์ธนชิต จำเลยที่ 4 และนายทูล หาวิชา จำเลยที่ 6 ให้จำคุกคนละ 6 ปี 6 เดือนและปรับคนละ 10,500 บาท
นายประเสริฐ อุ่นศิวิไลย์ จำเลยที่ 1 รวมสามกระทงเป็นจำคุก 6 ปี 18 เดือน และปรับ 31,500 บาท
นายวริษฐ์ รัชตเมธี จำเลยที่ 5 รวม สองกระทงเป็นจำคุก 4 ปี 12 เดือน และปรับ 21ล000 บาท
นายสมภพ อัมวงศา จำเลยที่ 7 รวมสิบกระทงเป็นจำคุก 20 ปี 60 เดือน และปรับ 105,000 บาท
นางเบญจวรรณ ทวีวงศ์ จำเลยที่ 8 รวมสองกระทง เป็นจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 14,000 บาท
5. พิเคราะห์รายงานประพฤติแล้ว การสืบเสาะและพินิจจำเลยของพนักงานคุมจำเลยทั้งแปด มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งประกอบอาชีพสุจริตมาโดยตลอดนิสัยและความประพฤติไม่ปรากฎข้อเสียหายร้ายแรง
เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ถึงที่ 7 และที่ 8 เคยกระทำความผิดใดมาก่อน
ส่วนจำเลยที่ 3 ปรากฏเพียงความผิดฐานขับรถขณะมึนเมาสุราเมื่อปี 2556 และไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งแปดจะกระทำความผิดใดขึ้นอีก
เห็นควรให้โอกาสจำเลยทั้งแปดกลับตัวโดยการรอการลงโทษจำคุกมีกำหนด 2 ปีและกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยทั้งแปด
โดยให้ไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนด 1 ปี กับให้ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรมีกำหนด 48 ชั่วโมง หากจำเลยทั้งแปดไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ.มาตรา 29 , 30
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัดห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
อ่านประกอบ :
- ไม่รอลงอาญา! คุกคนละ 8 ด. อดีตนายก ทต.โพทะเล-พวก กำหนดราคารูปปั้นไกรทองแพง
- ไม่รอลงอาญา! คุก 4 ปี อดีตผอ.ทรัพยากรน้ำภาค 8 เรียกรับเงินเอกชน 4 โครงการ
- ยืนโทษ! คุก 6 ปี อดีตรองนายก อบต.เหล่าต่างคำ ขัดขวางยื่นซองสอบราคา 8 โครงการ
- ทุจริตซื้อเรือท้องแบนแพง! คุกคนละ 3 ปี 4 ด. อดีตนายก อบต.พรสวรรค์-พวก รอลงอาญา
- เห็นพ้อง อสส.! ป.ป.ช.ไม่อุทธรณ์คดีอดีต 3 ส.ส.ภูมิใจไทย โดนคุก 9 ด. เสียบบัตรแทนกัน
- คดีที่ 2! โดนคุก 10 ปี อดีตพลังงานอุตรดิตถ์ ทุจริตเบิกจ่ายเงินค่าอาหารโครงการอบรม
- ไม่รอลงอาญา! คุก 3 ปี 4 ด. อดีตนายกอบต.โตนด เรียกเงินช่วยสอบแข่งขันบรรจุ พนง.
- ไม่รอลงอาญา! คุก 5 ปี อดีตนายก อบต.บ้านหลวง เชียงใหม่ เรียกเงินสร้างสนามบอลโกลหนู
- ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้! รอลงอาญาคุก อดีตพลังงานกาญจนบุรี-พวก เบิกเงินไปราชการเท็จ
- ป.ป.ช.ขออุทธรณ์! คุก 5 ปี อดีตปลัดอบต.โนนกลาง จ่ายเงินทำถนนเท็จ พวกโดนคนละ 3 ปี 4 ด.
- ป.ป.ช.ขออุทธรณ์! คุก 2 ปี 6 ด.อดีตผอ.ร.ร.สุรวิทยาคาร จัดศึกษาดูงานครูบุคลากรมิชอบ
- เหลือคุก 7 ปี! แก้โทษ จนท.ตรวจจ้างเหมาจัดการขยะเทศบาลฯหนองบัวลำภูมิชอบ-ป.ป.ช.ขอฎีกาสู้
- รอลงอาญา! คุก 3 ปี 4 ด. อดีตปลัดเทศบาลฯบ้านม่วง-พวก ให้บ.ชนะงาน 5 โครงการมิชอบ
- ไม่รอลงอาญา! คุก 5 ปี นายก อบต.พระบาทนาสิงห์ จ่ายเงินทำถนนลูกรังมิชอบ-เอกชนโดนด้วย