3ป.ร่วมแถลงข่าวจับลูกเขยชาดาพร้อมพวกร่วมกันขู่ผู้รับเหมาถอนตัวสัญญาแทงก์น้ำหมู่บ้าน 3 ล้านบาท ก่อนเรียกรับเงิน 6 แสน-ผบก.ปปป.รับคุยกับ'ชาดา'แล้ว อีกฝ่ายขอให้ว่ากันตามกฎหมายเลย เตือนแล้วใครไม่หยุดก็รับในสิ่งนั้นไป-ขณะผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ
สืบเนื่องจากที่เป็นข่าวกรณีการจับผู้กระทำผิดจำนวนหลายราย ซึ่งรวมไปถึงนายวีระชาติ รัศมี นายกเทศบาลตลุกดู่ และลูกเขยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วยพฤติการณ์การกระทำความผิดเรียกรับเงินและมีส่วนในการข่มขู่บริษัทผู้รับเหมาให้ถอนตัวจากโครงการก่อสร้างระบบท่อน้ำประปาในพื้นที่ ต.ตะลุกดู่ และ ต.หาดทะนง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 24 ต.ค. เวลา 19.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนตำรวจทางหลวง (รรท.ผบก.ทล.ฉ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ปปป., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.4.บก.ปปป. พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4.บก.ป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.และนายศรชัย ชูวิเชียรผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ได้ร่วมกันแถลงถึงการจับกุมดังกล่าว พร้อมกับแสดงของกลางที่ยึดได้ในระหว่างการจับกุมจำนวนหลายรายการ อาทิ อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ พร้อมเครื่องกระสุน สมุดบัญชีเงิน ธนบัตร 1,000 บาทจำนวนหลายปึก
โดยนายภูมิวิศาลเริ่มการแถลงข่าวว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าบังคับใช้กฎหมายสืบเนื่องจาก บก.ปปป.ได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการที่จะดำเนินการเกี่ยกับการดำเนินการระบบน้ำประปาในพื้นที่ ต.ตะลุกดู่ และ ต.หาดทะนง ปปป.จึงได้ร่วมกับ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช.ตรวจสอบข้อเท็จจริงในระดับหนึ่งจนสามารถออกหมายค้นและหมายจับได้ เรื่องนี้ผู้เสียหายเป็นผู้ประกอบการได้รับการประมูล แต่กลับได้รับโทรศัพท์ข่มขู่ในทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้รับเหมาถอยไป เริ่มตั้งแต่ให้รับเงินอย่างเดียวหมื่นบาทแต่ไม่ต้องซื้อซอง จนกระทั่งในระหว่างกรดำเนินการก็มีโทรศัพท์ขู่ว่าให้หยุดทำงานแล้วรับเงินที่เป็นเปอร์เซ็นต์ไป
“แต่ผมเรียนว่ายุคนี้ไม่มีใครทนกับเรื่องเหล่านี้แล้ว ก็ขอว่าอย่าไปยอม เรื่องนี้ ผู้เสียหายเขาไม่ยอมเลยมาร้อง บก.ปปป. ทาง บก.ปปป.จึงได้รวบรวมหลักฐานกับ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. รวบรวมหลักฐาน ซึ่งเรื่องนี้ผู้กระทำผิดวางแผนไว้อย่างแยบยล พยายามไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวนายกเทศบาลได้ แต่ ปปป.ก็เจอหลักฐานจนสามารถออกหมายค้นและหมายจับได้” นายภูมิวิศาลกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสงค์กล่าวว่าเราได้สนธิกำลังทั้ง 3 หน่วย ป.ป.ช. ปปท.และ ปปป. และมีการขอกำลังจากกองปราบมาร่วมปฏิบัติการณ์ด้วย ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เรียน โดยรายละเอียดโครงการนี้เป็นโครงการแทงก์ประปาหมู่บ้านมีมูลค่า 3 ล้านกว่าบาท ตัวโครงการสัญญาประมาณ 7 เดือน เริ่มบิดดิ้ง (กระบวนการประกวดราคา) ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2565 ซึ่งหลังการบิดดิ้ง ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ตลุกดู่ก็โทรมาขู่ให้ถอนตัว ให้ทิ้งงาน ให้งานคนอื่นทำ ถูกบีบจนไม่สามารถซื้อวัสดุ ผู้เสียหายจึงเจรจากับนายกเทศบาลตลุกดู่ ก็มีการเรียกรับเงินจำนวน 6 แสนบาท ผู้เสียหายจึงแจ้งความกับทางตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน ทาง ปปป.จึงได้มีการขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางให้ออกหมายค้นและหมายจับตามพยานหลักฐานที่สามารถรวบรวมได้ ซึ่งจากการค้น 6 จุดสามารถยึดเงินจำนวน 6 แสนบาท สมุดเช็ค อาวุธปืนของนายวีระชาติ และสามารถจับกุมผู้ต้องรายที่ 1-4 ได้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ
ทางด้านของนายศรชัยกล่าวว่า สำนวนหลังจากนี้ไป บก.ปปป.จะรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งคิดว่ามีความหนาแน่นพอสมควรโดยขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน หลังจากนั้นก็จะส่งพยานหลักฐานให้ ป.ป.ช.พิจารณาตาม พรบ.ป.ป.ช. 2561 ต่อไป ส่วน ป.ป.ช.จะทำเองหรือให้ บก.ปปป.ไปทำต่อก่อนส่งฟ้องศาลก็ขึ้นอยู่กับมติของกรรมการ ป.ป.ช.
“ตามที่เลขา ปปท.ได้นำเรียนว่าเราได้มีการบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาการเรียกรับเงิน อย่างไรก็ตามแม้มจะมีการใช้ระบบบิดดิ้งแล้ว ผู้มีอำนาจในท้องที่ก็ยังใช้อำนาจในการกีดกันไม่ให้ผู้รับเหมาสามารถดำเนินการได้ เขาทนไม่ไหวจึงได้มาร้องเรียน ส่วนตัวจึงขอให้ทุกฝ่ายทั้งพี่น้องประชาชน หน่วยงานข้าราชการลุกขึ้นมาไม่ทนกับการทุจริต” นายศรชัยกล่าว
เมื่อถามว่าผู้ถูกจับเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่เพราะสามารถสั่งร้านในพื้นที่ไม่ให้ขายวัสดุแก่ผู้รับเหมาได้ ทางพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่าพฤติกรรมที่เรารู้มาในหลายพื้นที่พบว่ายังมีการใช้อำนาจบังคับผู้ประกอบธุรกิจเพื่อจะให้ได้งานมาทำเอง ตรงนี้ทางผู้บัญชาการสอบสวนกลางเองก็ให้ความสำคัญ และกำชับให้ดำเนินการรัดกุม มีการขอศาลให้ออกหมายค้นและหมายจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่หลังจากรับเรื่องร้องจากผู้เสียหายก็ได้มีการหารือหน่วยงานต่างๆจนมาเป็นชุดสืบสวนรวบรวมหลักฐานจนสามารถขอหมายจากศาลได้
เมื่อถามว่ากังวลไหมเพราะคนที่ถูกจับเป็นลูกเขยของนายชาดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่าก็ขอให้แยกเป็นคนๆไป ส่วนตัวได้คุยกับนายชาดาแล้ว ก็ไม่ได้ขออะไรแค่บอกว่า “พี่ก็ว่าไปตามกฎหมายเลย ถ้ากฎหมายมันว่ายังไงก็ว่าไปเลย เตือนแล้วใครไม่หยุดก็รับในสิ่งนั้นไป”
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่อไปว่าจากการสอบสวนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลว่ามีผู้เสียหายรายอื่นที่ถูกเรียกเงินหรือไม่ต่อไป แต่ตอนนี้เบื้องต้นทราบว่ามีแค่รายเดียว
ทางด้านของ พ.ต.อ.ประสงค์กล่าวถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหาจำนวน 5 รายได้แก่ 1.นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศบาลตลุกดู่ 2.นายธนภัสสร์ ดุลยาธิการ ตำแหน่งปลัดเทศบาลตลุกดู่ 3.นายกุลธัช สามัคคี ผู้ช่วยนายช่างโยธาเทศบาลตลุกดู่ และประชาชนอีกสองรายได้แก่ 4.นายมานพ ติดติมานพ และ 5.นายยิ่งยง คชาชาญ
โดย พ.ต.อ.ประสงค์กล่าวว่านายกเทศบาลฯเป็นผู้สั่งการ ปลัดเทศบาลกับตัวนายช่างก็เป็นผู้เจรจากับผู้รับเหมา เจรจาให้บริษัทอื่นเข้าทำงานและไปพบกับตัวนายกเทศบาล ส่วนคนที่ 4 ก็จะเป็นคนที่เข้ามาเจรจาเรื่องเงินรับช่วงต่อจากนายกและเป็นคนรับเงินและคนที่ 5 ก็มากับนายมานพ ซึ่งคนที่ 1-3 จะโดนข้อหา 157 และ 149 ส่วนคนที่ 4-5 โดนดำเนินคดีฐานสนับสนุนการกระทำผิด