‘เศรษฐา’ ปฏิเสธปมพูดที่พิษณุโลกให้คนเห็นด้วย ‘ดิจิทัลวอลเลต’ ออกมาส่งเสียงเป็นการแบ่งแยกประชาชน ชี้ยังรับฟังทุกความเห็น เตรียมบินจีน-ซาอุฯวันนี้ยาวถึง 21 ต.ค.นี้ คุยทุกผู้นำขอช่วยคนไทยที่อิสราเอลและประเด็นเรือดำน้ำ ก่อนเปิดเผยเองว่า สั่งเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ ขณะที่การสานต่อไฮสปีดไทยจีน ยังลังเลได้ไปต่อหรือไม่ ขอคุยก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงคลองบางไผ่ - เตาปูน ระยะทาง 23 กม. และรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน - บางซื่อ - รังสิต ระยะทาง 41 กม. ในอัตาสูงสุดที่ 20 บาทแล้ว ส่วนรายละเอียดรอนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้แถลง ขณะที่รถไฟฟ้าสายอื่นๆ กำลังดูยู่
@ปัดแบ่งแยกประชาชนปม ‘ดิจิทัลวอลเลต’
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่ จ.พิษณุโลกให้คนที่เห็นด้วยกับนโยบายดิจิทัล วอลเลต ออกมาส่งเสียงเห็นด้วย จะเป็นการแบ่งแยกประชาชนนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้แบ่งแยกประชาชน เป็นเพียงการรับฟังเสียงทุกเสียง ซึ่งส่วนตัวก็อยากรับฟังทุกความเห็น เช่น ประชาชนบอกว่าระยะทาง 4 กม. ไม่มีร้านค้า ก้อยากให้ออกมาแสดงความเห็น หรือการแนะนำให้ใช้เงินข้ามถิ่น หรือข้อท้วงติงเกี่ยวกับระยะเวลา 6 เดือน ก็อยากรับฟังทั้งหมด แต่ยืนยันว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี ส่วนกรณีแหล่งที่มาของเงินที่จะมาใช้ในนโยบายนี้ ขอให้รอการแถลงทีเดียวจะดีกว่า
ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านออกมาเตือนว่า ไม่อยากให้นโยบายนี้ซ้ำรอยนโยบายจำนำข้าวในอดีต นายกรัฐมนตรีตอบเพียงว่า จะรับฟัง และจะรัดกุมทุกความเสี่ยงในทุกขั้นตอน เพราะก็มีคณะอนุนกรรมการและคณะทำงานติดตามและกำกับดูแลอยู่
@คุยผู้นำหลายประเทศอพยพคนไทย - เดินหน้าแลนด์บริดจ์
เมื่อถามถึงการเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนในสัปดาห์นี้ จะหารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทยที่อิสราเอลอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ในการเดินทางครั้งนี้ทราบว่ามีผู้นำจากหลายประเทศเดินทางไปด้วย ก็จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีพูดคุยกัน ซึ่งในทางการทูตต้องอาศัยทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ เชื่อว่าทุกประเทศให้ความสำคัญและเป็นห่วงเป็นใย และจะคุยถึงการค้าการลงทุนและการทูตด้วย ตารางงานแน่นเอี๊ยด และที่สำคัญ ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย -อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือแลนด์บริดจ์ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์ทั้งหมดของโลก และสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติในการสร้างโรงงานในไทย
เมื่อถามอีกว่า การเดินทางไปช่วยคนไทยที่ประเทศอิสราเอล เกิดข้อวิจารณ์ว่า ไทยต้องบินอ้อม บินตรงไม่ได้นั้น เป็นการการแสดงว่า ทางการทูต ไทยด้อยกว่าที่อื่นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า ไม่ แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลตรงนี้มา ส่วนจะหารือกับประเทศซาอุดิอาระเบียเรื่องเส้นทางการบิน ก็เป็นข้อเสนอแนะที่ดี ซึ่งจะมีโอกาสได้พบปะเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร (Mbs) และนายกรัฐมนตรีของประเทศซาอุดิอาระเบียด้วย ขณะที่ความคืบหน้าการช่วยเหลือยังไม่มีอะไรคืบหน้า ต้องรอช่วงบ่าย
@รับมีคุยเรือดำน้ำ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การไปประเทศจีนครั้งนี้ จะมีการหารือถึงประเด็นเรือดำน้ำด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า มี ส่วนจะได้ข้อสรุปไหม ก็หวังว่าจะได้ แต่ไม่คาดหวังเกินไป เพราะเป้นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องการการบริหารจัดการที่ดี และเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข หรือจะแลกเป็นเรือเหนือน้ำได้หรือไม่ ซึ่งจะต้องตอบโจทย์กองทัพเรือด้วยว่า ถ้าเป็นเรือเหนือน้ำต้องเสริมศักยภาพทางทะเลอย่างอื่นด้วยหรือไม่
เมื่อถามถึงการเสนอชื่อนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เป็นผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คนใหม่นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่มีการหารือในประเด็นนี้ แต่มีการรายงานถึงมาตรการที่เกี่ยวกับน้ำมันเบนซิน ซึ่งสั่งการให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไปดูมาตรการเยียวยา และช่วยเหลือภาคส่วนเปราะบาง ซึ่งเสนอมา 2 แนวทาง แต่ยังไม่เห็นชอบกับ 2 แนวทางเท่าไหร่ จึงให้ไปหาแนวทางที่ 3 มา คาดว่า สัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม.
ส่วนประเด็นมาตรการ “วีซ่าฟรี” สำหรับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นหนึ่งในมาตราการกระตุ้นท่องเที่ยว ขยายจาก 30 วันเป็น 90 วันให้อยู่ในประเทศได้ เพราะปกติชาวรัสเซียจะเข้ามาเที่ยวไทยช่วงเดือน ธ.ค. - เดือน มี.ค.ของทุกปี และจะได้หารือกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย เพื่อแสดงท่าทีอันเป็นมิตรระหว่าง 2 ประเทศ
@ไฮสปีดไทยจีน ชั่งใจทำต่อหรือไม่
ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามถึงความร่วมมือในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จะมีการทำต่อหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า ไม่แน่ใจจะมีการประกาศความร่วมมือในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ แต่จะมีการพูดคุยกับทางการจีนแน่นอน เพราะเรื่องโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ อย่างที่ได้บอกไปตอนต้นว่า ได้เห็นชอบให้ศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะรถไฟความเร็วสูงก็ไม่ใช่ทางออกทั้งหมด จะต้องมีคำตอบที่ตอบโจทย์ (Total Solution) ในเรื่องโลจิสติกส์ทั้งหมเให้ได้ ส่วนจะรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จะทำต่อหรือไม่ นายเศรษฐาทิ้งท้ายว่า จะมีการพูดคุยกัน