เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ณัฐ เลื่อนยศ' อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทับเบิกร่วมใจ ตำบลวังบาล เพชรบูรณ์ แบ่งซื้อหนังสือเรียน โดยวิธีตกลงราคา ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษ จำคุก 3 ปี 9 เดือน -พวก 3 ราย ได้รอลงอาญา -ป.ป.ช.ขออสส.อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายณัฐ เลื่อนยศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทับเบิกร่วมใจ ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ กับพวก คือ นางสุภาภรณ์ ยอดคำ, บริษัท ศึกษาภัณฑ์ขอนแก่น หล่มสัก จำกัด, นายกฤษณ์พงศ์ คำชู, นายสุรวุฑ สาฆ้อง แบ่งซื้อหนังสือเรียนประจำปีการศึกษา 2555 เพื่อจัดซื้อ โดยวิธีตกลงราคา ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 , 162 (1), (4) และ 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว)มาตรา 12 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาดังนี้
1. จำคุก นายณัฐ เลื่อนยศ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 ปี 9 เดือน
2. จำคุก นางสุภาภรณ์ ยอดคำ จำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน และปรับ 6,000 บาท
3. จำคุก นายสุรวุฑ สาฆ้อง จำเลยที่ มีกำหนด 9 เดือน และปรับ 15,000 บาท
4. พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 5 ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 5 โดยรอการลงโทษจำคุกไว้ คนละ 3 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 56 หากจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 5 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ.มาตรา 29
5. ยกฟ้องโจทก์สำหรับ บริษัท ศึกษาภัณฑ์ขอนแก่น หล่มสัก จำกัด จำเลยที่ 3 และ นายกฤษณ์พงศ์ คำชู จำเลยที่ 4
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรมีหนังสือขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ