'ปานปรีย์ พหิทธานุกร' เผยข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ จำนวนแรงงานไทยบาดเจ็บ 8 เสียชีวิต 1 ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน หลังกลุ่มฮามาสบุกฉนวนกาซา ขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่าเพิ่งเผยแพร่รายชื่อผู้ได้รับผลกระทบ เหตุอาจสร้างความตระหนกตกใจ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2566 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์กลุ่มฮามาส กองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ บุกฉนวนกาซาและจับตัวคนในพื้นที่เป็นตัวประกัน โดยติดตามเรื่องข้างต้นอย่างใกล้ชิด และได้สั่งการสถานทูตเทลอาวีฟรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน รอการช่วยเหลือจากกองทัพ 3 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล soroka 5 คน เสียชีวิต 1 คน ถูกจับ 11 คน ซึ่งสถานทูตพยายามติดต่อกับทางอิสราเอลเพื่อประสานยืนยันข้อมูล ซึ่งทางอิสราเอลยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้จึงยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการ
"ทั้งนี้ขอความกรุณาในเรื่องการเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งตอนนี้ยังไม่ประสงค์ที่จะเผยแพร่ชื่อของแรงงานที่ได้รับผลกระทบ เพราะควรจะต้องติดต่อญาติมิตรของแรงงานให้ได้ทราบก่อน ไม่อยากให้ทราบข่าวจากสื่อเป็นที่แรก และอาจสร้างความตระหนกตกใจได้ ต้องขอความอนุเคราะห์จากสื่อมวลชนด้วย" นายปานปรีย์ กล่าว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการกองทัพอากาศเตรียมความพร้อมในการอพยพประชาชนชาวไทยจากอิสราเอลเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้น่านฟ้าของอิสราเอลยังไม่เปิด ประเทศอื่น ๆ ก็ยังไม่ได้ทำการอพยพในเวลานี้ ซึ่งทางอิสราเอลอยุ่ในภาวะสงคราม ที่ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน หลบในหลุมหลบภัย ซึ่งคนอิสราเอลและคนไทยในอิสราเอลได้รับการอบรมและตระหนักรู้ถึงแนวทางต่าง ๆ อยู่แล้ว ในวันที่ 8 ต.ค. 2566 เวลา 13.00 น. ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีการประชุมที่กรมการกงศุลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้วางใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากและจะดำเนินการทุกอย่างเต็มความสามารถในการดูแลช่วยเหลือประชาชนชาวไทย
"รัฐบาลไทยไม่เห็นด้วยและขอประนามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ รัฐบาลขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุติความรุนแรง และปล่อยตัวพลเรือน ผู้บริสุทธิ์ในทันที" นายปานปรีย์ กล่าว
นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กล่าวว่า ยังมีการสู้รบในพื้นที่โดยเฉพาะในเขตฉนวนกาซา ทางอิสราเอลพยายามยึดคืนพื้นที่ แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นแรงงานไทยทำงานอยู่ ทั้งนี้คนที่ถูกจับไม่ได้มีแค่แรงงานไทยแต่ยังมีคนอิสราเอลด้วย ซึ่งทางสถานทูตไม่ได้นิ่งนอนใจ จะให้ความช่วยเหลือคนไทยเป็นอย่างแรก โดยแรงงานไทยไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของกลุ่มฮามาส แต่เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่จึงถูกจับเป็นตัวประกัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังสามารถติดต่อแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไปได้เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่กลุ่มฮามาสบุกยึด ต้องรอฝ่ายอิสราเอลเข้าไปจัดการก่อน