ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สันติ ศุภสินถาวรกุล' อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองระนอง ทุจริตจัดจ้างซ่อมรถยนต์ราชการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 พิพากษาลงโทษ จำคุก 1 ปี แต่ได้รอลงอาญา พร้อมพวก 5 ราย-เหตุพฤติการณ์คดีไม่ร้ายแรง ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสันติ ศุภสินถาวรกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี เมืองระนอง จังหวัดระนอง กับพวก คือ นายสมศักดิ์ หรือภัทรภาณุเดช สุทธิรัตน์ นางมาลี ยกย่อง นายอนุสรณ์ แซ่ขอ นางสาวอัจฉรา เกิดบางนอน นางเอื้ออารีย์ โสวิต ทุจริตในการจัดจ้างซ่อมรถยนต์ของทางราชการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 157 , 162 (4) ประกอบมาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2562
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายสันติ ศุภสินถาวรกุล จำเลยที่ 1 นายสมศักดิ์ หรือภัทรภาณุเดช สุทธิรัตน์ จำเลยที่ 2 นางมาลี ยกย่อง จำเลยที่ 3 นายอนุสรณ์ แซ่ขอ จำเลยที่ 4 นางสาวอัจฉรา เกิดบางนอน จำเลยที่ 5 นางเอื้ออารีย์ โสวิต จำเลยที่ 6 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 83
2. จำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 มีความผิดตามป.อ. มาตรา 162 (4) (เดิม) ประกอบมาตรา 83
3. ลงโทษ นายสันติ ศุภสินถาวรกุล จำเลยที่ 1 ตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท
4. ลงโทษนายสมศักดิ์ หรือภัทรภาณุเดช สุทธิรัตน์ จำเลยที่ 2 ตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จำคุกกระทงละ 1 ปี ปรับกระทง ละ 20,000 บาท รวม 2 กระทงรวมจำคุก 2 ปีปรับ 40,000 บาท
5. ลงโทษ นางมาลี ยกย่อง จำเลยที่ 3 ตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จำคุกกระทงละ 1 ปีปรับกระทงละ 20,000 บาท รวม 2 กระทง รวมจำคุก 2 ปีปรับ 40,000 บาท และตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และตาม ป.อ. มาตรา 162 (4) ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามป.อ. มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท รวม 3 กระทง รวมจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท
6. ลงโทษนายอนุสรณ์ แซ่ขอ จำเลยที่ 4 นางสาวอัจฉรา เกิดบางนอน จำเลยที่ 5 นางเอื้ออารีย์ โสวิต จำเลยที่ 6 ตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบ มาตรา 83 และตาม ป.อ.มาตรา 162 (4) ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท
7. จำเลยที่ 3 และ จำเลยที่ 4 ให้การรับสารภาพเป็น ประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน และปรับ 30,000 บาท และคงจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท
8. พฤติการณ์แห่งคดีของจำเลยทั้งหกไม่ถึงกับมีข้อเสียร้ายแรง ประกอบกับจำเลยทั้งหกไม่เคยรับ โทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอ การลงโทษไว้คนละ 2 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นพ้องด้วยในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ