ป.ป.ช.ชี้มูล 'อุทิศ ชูช่วย' อดีตนายกฯ อบจ.สงขลา เซ็นอนุมัติทิ้งทวน จัดจ้างคู่มือเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ราคาสูงเกินจริง ทำ อบจ.เสียหาย 20 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 6 ก.ย.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้เผยแพร่ข่าวมติชี้มูลนายอุทิศ ชูช่วย เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมพวก กรณีจัดจ้างทําคู่มือการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาสําหรับประชาชน ในราคาสูงเกินจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับจ้าง เมื่อปี พ.ศ. 2556
เอกสารข่าว ป.ป.ช.ระบุผลการไต่สวนว่าก่อนที่นายอุทิศ ชูช่วย จะครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารจังหวัดสงขลาในเดือนตุลาคม 2556 ได้สั่งการให้นางสาวเฉลียว จันทรัตน์ หัวหน้าสํานักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เร่งจัดจ้างทำคู่มือการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาสำหรับประชาชน โดยเดือนพฤษภาคม 2556 มีการตกลงให้ห้างหุ้นส่วนจํากัด ปานปั้น พาณิชย์ เซ็นเตอร์ เป็นผู้รับจ้างไว้แล้ว
ต่อมาเดือนมิถุนายน 2556 นายอุทิศ ชูช่วย ได้ลาออกจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
นายสำรวม รักษาพราหมณ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ลงนามอนุมัติจัดจ้างทำคู่มือการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาโดยวิธีพิเศษ จำนวน 450,000 เล่ม ในราคาเล่มละ 87 บาท ค่าซอง 5 บาท รวม 92 บาท วงเงินในการจัดจ้าง จำนวน 41,400,000 บาท ทั้งที่คณะกรรมการกำหนดรูปแบบรายละเอียดและราคากลางไม่ได้สืบราคาจากท้องตลาดหรือผู้มีอาชีพโดยตรง
ซึ่งพยานหลักฐานในการสืบราคาของสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 15 ปรากฏข้อเท็จจริงว่า การจัดทำคู่มือการเลือกตั้งตามคุณลักษณะเดียวกันกับเรื่องนี้จะมีราคาตามท้องตลาดเฉลี่ย เล่มละ 45.93 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาแล้ว ราคากลางที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลากำหนดเพื่อจัดจ้างในโครงการที่กล่าวหาจึงสูงกว่าราคาโดยทั่วไปที่สมควร เล่มละ 46.07 บาท
อันทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท และหนังสือคู่มือการเลือกตั้งดังกล่าวยังมีเนื้อหาที่เกินความจำเป็น นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ปานปั้น พาณิชย์ เซ็นเตอร์ ซึ่งภายหลังได้รับคัดเลือกเข้าเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มิได้เป็นผู้ประกอบการที่มีอาชีพโดยตรง สถานที่ตั้งไม่มีป้ายชื่อร้าน และไม่มีลักษณะของห้างร้านที่เปิดกิจการร้านค้าหรือประกอบกิจการโรงพิมพ์แต่อย่างใด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลดังนี้
1. นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติการตามอํานาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 79
2. นายสํารวม รักษาพราหมณ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
3. นางสาวเฉลียว จันทรัตน์ หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
4. นายวีระชัย พรรณราย นักบริหารงานทั่วไป 7 และนายนรนาถ นิลวงศ์นักบริหารงานทั่วไป 7 ไม่มีมูลความผิดทางอาญา แต่การกระทําดังกล่าวมีมูลเป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง
5. นายสรรเพชญ กุลวิจิตร และนางรัตนา นวลละออง ไม่มีมูลความผิดทางอาญาให้ข้อกล่าวหาตกไป
6. ห้างหุ้นส่วนจํากัด ปานปั้น พาณิชย์ เซ็นเตอร์ นางสาวบุศย์แก้ว ศิริมุสิกะ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจํากัด ปานปั้น พาณิชย์ เซ็นเตอร์ และนางสมจิตร์ หรือสรวรรณ ศิริมุสิกะ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86