ราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศสำนักนายกฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชฯ ‘สำลี รักสุทธี’ อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย หลังถูกศาลรัฐธรรมนุญวินิจฉัยขาดสมาชิกภาพ เหตุเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก คดีลักทรัพย์ กรณีเป็นผู้ประพฤติตนไม่สมเกียรติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 21 ส.ค.2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่ง นายสำลี รักสุทธี ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ดังนี้
1.เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย เนื่องจากเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ตามหลักเกณฑ์ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบุคคลดังกล่าวสิ้นสุดลง นับแต่วันเลือกตั้ง คือ วันที่ 24 มีนาคม 2562 ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565
2.เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก และตริตาภรณ์มงกุฎไทย เนื่องจาก ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี และถูกกำหนดเงื่อนไข คุมประพฤติ 1 ปี ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดมหาสารคามในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.4064/2561 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.134/2562 เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2562 เรื่อง ลักทรัพย์ อันเป็นเหตุแห่งการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กรณีเป็นผู้ประพฤติตนไม่สมเกียรติ ตามข้อ 7 (8) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 และ นายสำลี รักสุทธี เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว
ประกาศ ณ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ดูประกาศในลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140B038N0000000000500.pdf
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศราเคยรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2565 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัยโดยมีมติ 6 ต่อ 3 ให้ นายสำลี รักสุทธี พ้นสภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย จากปมขัดคุณสมบัติการเป็นส.ส. เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดมหาสารคาม ถึงที่สุดในคดีความผิดต่อทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ทำให้นายสำลี มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 10 ) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ( 6 ) โดยให้มีผลนับแต่วันที่ 24 มี.ค.2562
สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 พ.ย.64 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์รับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส. ของ นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) หรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัย
โดยเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2651 มาตรา 7 (5) และให้นายสาลี ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องและมีมติเอกฉันท์ให้นายสาลีหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.64 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสองเนื่องจากเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า นายสาลี ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง นายสำลี รักสุทธี เป็นอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และได้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบพรรค
อ่านเพิ่มเติม
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์'สำลี รักสุทธี'พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.เคยต้องคำพิพากษาเกี่ยวกับทรัพย์