ตำรวจไต้หวันจับ 2 ผู้บงการขบวนการขนกัญชา 62.1 ก.ก. มูลค่า 144 ล้านบาทจากไทย ผ่านไปรษณีย์ ซุกกล่องชาไทย ก่อนส่งต่อให้องค์กรอาชญากรรมกรรมในไต้หวัน พบแก๊งสหภาพไม้ไผ่-แก๊งสี่ทะเล สองแก๊งอาชญากรสุดฉาวโฉ่ของไต้หวันมีเอี่ยวด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวขบวนการลักลอบขนกัญชาในต่างประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศไทย โดยสำนักข่าวโฟกัสไต้หวันได้รายงานข่าวว่าผู้บงการรายใหญ่ สองรายของขบวนการอาชญากรรมลักลอบกัญชาจากประเทศไทยเข้าสู่ไต้หวัน ผ่านช่องทางไปรษณีย์ได้ถูกจับกุมแล้วเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา และนอกเหนือจากสองรายนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนคดีอาญา (CIB)ยังได้สอบสวนผู้ต้องสงสัยอีกจำนวนแปดราย
โดยนายฉาง เหวินหยวน ผู้บัญชาการกองสืบสวนที่ 3 ของ CIB กล่าวในการแถลงข่าวว่า สํานักงานได้รับรายงานจากกรมศุลกากรเมื่อเดือนกรกฎาคมเกี่ยวกับคดีลักลอบขนยาเสพติดข้ามพรมแดน หลังจากนั้นทั้งสองหน่วยงานเริ่มให้ความร่วมมือเพื่อตรวจสอบกรณีนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ก็พบว่ามีบรรจุภัณฑ์ระหว่างประเทศที่มีข้อความว่า "ชาไทย" ถูกส่งมาที่เมืองเถาหยวน แต่เมื่อเปิดดูภายในบรรจุภัณฑ์ พบว่าเป็นกัญชาน้ำหนัก 62.1 กิโลกรัม มูลค่า 130 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (144,256,710 บาท)
ทางหน่วยงานจึงได้ขอให้สำนักงานอัยการเขตไทเปได้เริ่มการสอบสวนคดีนี้ หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการบังคับใช้กฎหมายได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นจำนวนหลายรายเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องสงสัยหลายรายที่ว่านี้ก็รวมไปถึงผู้รับบรรจุภัณฑ์ปลายทางที่มีนามสกุลว่าหลี่ คนขับรถที่มีนามสกุลว่าหยาง คคลผู้ติดต่อที่มีนามสกุลว่าเฉิน และผู้อำนวยความสะดวกด้านการขนยาเสพติดนามสกุลว่าชาง
ผู้บัญชาการกองสืบสวนที่ 3 กล่าวว่าต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุได้ว่าการลักลอบนี้ดำเนินการโดยแก๊งอาชญากรในท้องถิ่นและถูกขนส่งโดยสมาชิกแก๊งหลายคน เพื่อที่จะอำพรางให้รอดพ้นจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่
โดยเมื่อตํารวจสามารถระบุสถานที่และวิธีการที่แก๊งใช้ในการส่งมอบยาเสพติด เจ้าหน้าที่ได้เข้าจู่โจมครั้งที่สองเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ซึ่งการบุกจับในครั้งนั้นสามารถจับกุมผู้บงการที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังองค์กรอาชญากรรม และนอกจากนี้ยังสามารถจับกุมชายอายุ 26 ปีนามสกุลว่าหมู่ และชายอายุ 21 ปีนามสกุลกู๋ ซึ่งทั้งสองคนนี้มาจากสหภาพไม้ไผ่และแก๊งสี่ทะเล (Bamboo Union and Four Seas Gang) ซึ่งทั้งสององค์กรนี้ เป็นแก๊งอาชญากรที่ฉาวโฉ่ที่สุดของไต้หวัน
ผู้บัญชาการกองสืบสวนที่ 3 กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางพนักงานอัยการกําลังสอบสวนคดีนี้ตาม พ.ร.บ.ป้องกันอันตรายจากยาเสพติด และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของไต้หวัน โดยภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติกัญชาถูกระบุว่าเป็นยาเสพติดประเภท 2 ในไต้หวัน