ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราชแก้ปัญหามลพิษ เร่งกำจัดขยะมูลฝอยที่เกินกว่าประสิทธิภาพออกจากบริเวณบ่อให้เสร็จใน 180 วัน นับจากคดีถึงที่สุด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2566 ศาลปกครองนครศรีธรรมราชอ่านคำพิพากษาคดีกลิ่นเหม็นและน้ำเสียจากบ่อกำจัดขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ให้เทศบาลนครศรีธรรมราช และนายกเทศบาลนครศรีธรรมราช ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติในการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยบริเวณบ่อขยะของเทศบาล ตั้งอยู่ที่ ม.2 ต.นาเคียน อ.เมืองนครศรีธรรมราชให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และมาตรฐานในการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยและหลักสุขาภิบาลตามที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญจากกลิ่นเหม็นและสัตว์พาหะนำโรค และมลพิษที่เกิดจากน้ำชะขยะมูลฝอยดังกล่าวรั่วไหลและปนเปื้อนในดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อมโดยรอบบ่อขยะ
โดยให้นำขยะมูลฝอยที่มีอยู่บริเวณบ่อขยะ ในส่วนที่เกินกว่าประสิทธิภาพกำจัดขยะของระบบที่มีอยู่ออกไปจากบริเวณบ่อขยะ พร้อมทั้งดำเนินการกำจัดขยะส่วนที่เหลือตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข รวมทั้งหลักสุขาภิบาลตามที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ และห้ามนำขยะมูลฝอยไปทิ้งที่บ่อขยะดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด โดยให้ อบต.นาทราย และ อบต.นาเคียน เฝ้าระวัง ติดตามและตรวจสอบเหตุเดือดร้อนรำคาญจากกลิ่นเหม็นและสัตว์พาหะนำโรคที่เกิดจากบ่อขยะดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตน และรายงานให้เทศบาลนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และศาลทราบ ทุก 15วัน จนกว่าเหตุเดือดร้อนรำคาญดังกล่าวจะหมดสิ้นไป
นอกจากนี้ให้ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษเฝ้าระวัง ติดตามและตรวจสอบการรั่วไหลและปนเปื้อนของน้ำเสียและมลพิษจากบ่อขยะดังกล่าวไปสู่ดิน น้ำและสิ่งแวดล้อมโดยรอบบ่อขยะ และรายงานให้เทศบาลนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และศาลทราบ ทุก 30 วัน จนกว่าปัญหามลพิษดังกล่าวจะหมดสิ้นไป และให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติดำเนินการอันเป็นมาตรการในการติดตามเพื่อตรวจสอบว่า เป็นมลพิษจากบ่อขยะมีสภาพร้ายแรงถึงขนาดที่ต้องประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษเพื่อดำเนินการควบคุม ลดและกำจัดมลพิษตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุน และประสานการดำเนินงานด้านงบประมาณ และประสานการปฏิบัติในการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยบริเวณบ่อขยะเทศบาลนครศรีธรรมราชให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรฐานในการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยและหลักสุขาภิบาลตามที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ ในส่วนที่เกินศักยภาพด้านงบประมาณ และการบริหารจัดการของเทศบาลนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และยกฟ้องจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยให้วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา มีผลบังคับต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนี้ชาวบ้าน ต.นาทราย ต.นาเคียน และต.ปากพูน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชาวบ้านที่มีถิ่นฐานและอยู่อาศัยในชุมชนบริเวณรอบบ่อกำจัดขยะเทศบาลนครศรีธรรมราช จำนวน 51 ราย ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นและน้ำเสียที่รั่วไหลจากบ่อกำจัดขยะดังกล่าวจนไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ได้ตามปกติสุข ได้มายื่นฟ้องเทศบาลนครศรีธรรมราชกับเจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง รวม14หน่วยงาน ต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 เพื่อขอให้มีคำสั่ง ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 14 หน่วยงาน หยุดการประกอบการบ่อขยะ และมีคำสั่งห้ามหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบหรือบุคคลภายนอกนำขยะมูลฝอยสิ่งปฏิกูลเข้ามากำจัดและหรือเทกองเพิ่มอีก และร่วมกันประกาศให้พื้นที่บ่อกำจัดขยะกับพื้นที่โดยรอบและพื้นที่เทศบาลนครศรีธรรมราชเป็นเขตควบคุมมลพิษ