ป.ป.ช.เผยความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'เหลาไทย นิลนวล' อดีตนายก อบต.หลุบเลา สกลนคร จัดทำเอกสารอนุมัติเบิกจ่ายเงินโครงการส่งเสริมประเพณีสำคัญประจำตำบลหลุบเลาเป็นเท็จ-เบียดบังเงินไปโดยทุจริต ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี คืนเงิน 100,000 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายเหลาไทย นิลนวล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หลุบเลา อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร กับพวก จัดทำเอกสารและอนุมัติเบิกจ่ายเงินโครงการส่งเสริมประเพณีสำคัญประจำตำบลหลุบเลาเป็นเท็จ และเบียดบังเงินดังกล่าวไปโดยทุจริต ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 151 , 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายเหลาไทย นิลนวล จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 (เดิม), มาตรา 151 (เดิม) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ซึ่งมาตรา 147 (เดิม),151 (เดิม) มีอัตราโทษเท่ากันให้ลงโทษตามมาตรา 147 (เดิม) เพียงบทเดียวตามมาตรา 90
ลงโทษจำเลยจำคุก 5 ปี กับให้จำเลยคืนเงิน 100,000 บาท แก่องค์การบริหารส่วนตำบลหลุบเลาผู้เสียหาย
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท