เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สุระธวิชญ์ ขันติญาราษฎร์ ' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม นครพนม ทุจริตจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-พิการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี รับสารภาพลดเหลือ 5 ปี แต่ได้รอลงอาญา -ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสุระธวิชญ์ ขันติญาราษฎร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม กับพวก ทุจริตการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายสุระธวิชญ์ ขันติญาราษฎร์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 123/1 จำคุก 10 ปี และปรับ 200,000 บาท
นายสุระธวิชญ์ ขันติญาราษฎร์ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี และปรับ 100,000 บาท
โทษจำคุก ให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท