ป.ป.ช. ลงตรวจสอบกรณีรถบรรทุกขนดิน ขับเร็ว-หวาดเสียว เสียงดัง ทำให้ถนนพังเสียหาย สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ จ.ราชบุรี เร่งประสานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา พร้อมบูรณาการการทำงานเพื่อป้องปรามการทุจริตเชิงรุก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ในโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ครั้งที่ 3 โดยช่วงเช้าได้ลงพื้นที่พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีศึกษาภารกิจงานป้องกันการทุจริต ประเด็น “ปัญหารถบรรทุกขนดินสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี” ณ บ่อดินฟ้าบันดาล อำเภอบ้านแพ จังหวัดราชบุรี โดยการนำของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายหิรัณย์เศรษฐ เหยี่ยวประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 และนายภิรมย์ สมร่าง ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดราชบุรี
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดราชบุรี ได้รับแจ้งจากเครือข่ายชมรม STRONG จังหวัดราชบุรี ในประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เรื่องรถบรรทุกดินวิ่งด้วยความเร็ว หวาดเสียว เสียงดัง วิ่งบรรทุกดิน ทั้งกลางวัน กลางคืน และทำให้ถนนพังเสียหาย ชาวบ้านในระแวกนั้นได้รับความเดือดร้อน ซึ่งประเด็นปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว มีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางแพ แต่ปัญหาก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่จนถึงปัจจุบัน
“วันนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้นำคณะสื่อมวลชนส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมาลงพื้นที่จริง ดูปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้น ป.ป.ช. ราชบุรี ได้นำมาดำเนินการในกิจกรรมการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) โครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดราชบุรี ซึ่งร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG จังหวัดราชบุรี ลงพื้นที่ในเขตอำเภอบางแพ โดยจากการสอบถามชาวบ้าน และเครือข่ายชมรม STRONG ซึ่งเบื้องต้นพบว่าปัญหาเกิดผลกระทบกับ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนใหญ่ ตำบลดอนคา ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี โดยรถบรรทุกใช้เส้นทางของหมู่บ้านเป็นเส้นทางลัดในการวิ่งบรรทุกดิน ทราย จนทำให้ถนนพัง บ้านร้าว บางคันวิ่งด้วยความเร็ว มีการวิ่งกลางคืน โดยปัญหาดังกล่าว ผู้นำชุมชนซึ่งเป็นเครือข่าย STRONG ได้มีการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา แต่พบว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้ และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือต้องการให้รถวิ่งช้าลง ควรชะลอความเร็วเวลาที่ขับมาถึงหมู่บ้านหรือถ้าเป็นไปได้ คือไม่อยากให้รถบรรทุกวิ่งผ่านเลย” นายนิวัติไชย กล่าว
ด้านนายหิรัณย์เศรษฐ เหยี่ยวประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 กล่าวว่า ในพื้นที่ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุมหาทางแก้ไขร่วมกัน ประกอบด้วยที่ว่าการอำเภอบางแพ แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดราชบุรี ขนส่งจังหวัดราชบุรี สถานีตำรวจภูธรบางแพ เทศบาลตำบลบางแพ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนคา ตัวแทนชมรม STRONG และชาวบ้านที่ประสบปัญหา โดยได้ให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ของตน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดหากผู้ประกอบการไม่ได้ทำตามกฎหมาย ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นเข้าไปกำกับดูแล และยังได้มีการประสาน ไปยังที่ว่าการอำเภอบางแพ เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำกับดูแลผู้ประกอบการขุดดินในพื้นที่ให้ดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับด้วย
นอกจากนี้ นายภิรมย์ สมร่าง ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดราชบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นและร่วมกันในการแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่รัฐกระทำการฝ่าฝืน/ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะสามารถทำสำเร็จได้โดยลำพัง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ร่วมมือกันช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดจากรถบรรทุกโดยดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ในส่วนของภารกิจงานด้านการป้องกันการทุจริต เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดการทุจริต หรือลดจำนวนเรื่องร้องเรียนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งปัญหาตรงนี้ยังไม่สามารถแก้ไขให้หายได้ในทันที ดังนั้น ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาในเรื่องของรถบรรทุกที่สร้างความเดือนร้อนให้แก่ชาวบ้าน และสามารถอยู่ร่วมกันได้