‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ออกคลิปถึงผู้สนับสนุน เดินเกมคู่ขนานทั้งโหวตนายกฯรอบ 2 และแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ทิ้งท้ายหากดันสุดตัวแล้วไม่สำเร็จ พร้อมถอยให้ ‘เพื่อไทย’ เสนอนายกรัฐมนตรีแทน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เผยแพร่คลิปวิดีโอทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา 324 เสียง โดยเฉพาะ ส.ว. 13 ท่าน ที่โหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี
นายพิธากล่าวตอนหนึ่งว่า ทราบดีว่า ส.ว. หลายท่านเผชิญแรงกดดันมากมาย ที่รุนแรงหนักหนาจากการตัดสินใจครั้งนี้ ที่สำคัญที่สุด ตนขอขอบคุณทุกแรงใจ แรงสนับสนุนจากประชาชนทุกคน แต่ต้องขออภัยทุกท่านที่เรายังทำไม่สำเร็จ
นายพิธากล่าวต่อไปอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลมีภารกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน คือจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ วันนี้พรรคเราพยายามทำทุกวิถีทางตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อให้เสียงของประชาชนได้รับการตอบสนอง เจตนารมณ์ของประชาชนได้รับการเคารพ นี่คือการต่อสู้ร่วมกันไม่ใช่แค่ของพรรคก้าวไกลและ 14 ล้านเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของ 8 พรรค ตัวแทน 27 ล้านเสียง แต่คือการต่อสู้ของคนไทยทั้งประเทศ เพื่อยืนยันว่าเสียงของประชาชนต้องเป็นเสียงที่กำหนดอนาคตของประเทศนี้
“ขอให้เราเดินด้วยกันต่อไป ตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ แต่เวลาของเราเหลือไม่มาก เพราะผมทราบดีว่าประเทศไทยเดินต่อไปโดยไม่มีรัฐบาลของประชาชนแบบนี้ได้อีกไม่นาน ภายใต้เวลาอันจำกัดนี้ เราเหลือโอกาสอีกไม่กี่ครั้ง ที่ต้องสู้ร่วมกัน ใน 2 สมรภูมิ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลตามมติมหาชนได้สำเร็จ” นายพิธาระบุในคลิปตอนหนึ่ง
@โหวตนายกฯ-แก้มาตรา 272 สมรภูมิคู่ขนาน
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า สมรภูมิที่หนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้า คือการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 และสมรภูมิที่สอง ก็คือการยื่นเสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกถาวรตลอดกาล ทั้งสองสมรภูมิจะไม่มีวันชนะได้ หากเราไม่สามารถเปลี่ยนใจ ส.ว. ให้อยู่ข้างประชาชน
ตนจึงขอให้ประชาชนทุกคน ร่วมทำภารกิจกับผมในสองสมรภูมินี้ โดยการ ส่งสารถึง ส.ว. ในทุกวิถีทาง ทุกวิธีการที่ท่านนึกออก ย้ำ ขอเป็นวิธีการสร้างสรรค์ ช่วยกันเชิญชวนให้ ส.ว. โหวตนายกตามมติประชาชน หรือ โหวตยกเลิกมาตรา 272 เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
@พร้อมหลีกทางให้ ‘เพื่อไทย’
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากทำเต็มที่ใน 2 สมรภูมินี้แล้วเป็นที่ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้จริงๆ ตนพร้อมเปิดโอกาสให้ประเทศไทย โดยเปิดทางให้พรรคอันดับสอง คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ภายใต้ MOU ที่ทำร่วมกันไว้ และผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลทุกคนพร้อมสนับสนุนแคนดิเดทนายกของพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายในคลิปวิดีโอว่า แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราไม่ยอมแพ้แน่นอน และขอทุกคนมาร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ได้จนถึงที่สุด ผมคนเดียวหรือพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวไม่อาจเปลี่ยนใจ ส.ว. และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้จริง จึงต้องขอแรงพลังจากทุกท่านร่วมทำภารกิจเพื่อให้เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนให้สำเร็จ อนาคตของพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในมือของพวกท่านทุกคนแล้ว มาช่วยกันส่งสารเพื่อเปลี่ยนใจ ส.ว. ด้วยกัน ขอบคุณครับ”
ชัยธวัช ตุลาธน
@’ชัยธวัช’ ยัน ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ยังจับมือกันแน่น
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุม ส.ส.ผ่านระบบออนไลน์ เป็นการหารือในหลายเรื่องที่ได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทย (พท.) และแนวทางในการผลักดันเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมถึงพูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลการหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชัยธวัช กล่าวว่า ทางพรรคก้าวไกลได้ยืนยันว่า จะเสนอชื่อนายพิธา อีกครั้งหนึ่งในการประชุมสภา วันที่ 19 ก.ค. นี้ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยจะนำไปหารือกัน ซึ่งจริงๆ มีการพูดคุยกันในหลายเรื่อง ทั้งกระแสข่าวที่ว่าจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ แข่งจากเสียงข้างน้อย และหาวิธีป้องกันกรณีที่ ส.ว.บางคน พยายามเสนอให้มีการตีความข้อบังคับการประชุมของรัฐสภา ว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะสามารถทำซ้ำได้หรือไม่
ซึ่งเราเห็นตรงกันว่าไม่สามารถตีความข้อบังคับแบบนั้นได้ เพราะข้อบังคับนั้นมีไว้ใช้สำหรับญัตติทั่วไป แต่การเลือกนายกฯ เป็นกรณีเฉพาะซึ่งกำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ หากไม่สามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ซ้ำได้ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต ฉะนั้นเหตุผลที่จะตีความแบบนั้นคงไม่ถูก ทั้งนี้ มีการหารือกันหลายเรื่องถึงวิธีการที่จะทำให้ได้เสียงสนับสนุนมากขึ้นในการประชุมสภาครั้งต่อไป
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อแข่งกับนายพิธา ในวันที่ 19 ก.ค. นี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกัน เป็นภารกิจของ 8 พรรค โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่จะจับมือกันให้แน่นเพื่อไม่ให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ได้มีการตกลงกันว่าจะมีการนัดประชุมพรรคร่วม 8 พรรค ในเช้าวันอังคารที่ 18 ก.ค. ซึ่งตอนนี้กำลังประสานงานกัน
ถามว่า พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขัดข้อง เพราะเราเคยผลักดันเรื่องนี้กันมาหลายครั้งในสภา เมื่อถามอีกว่า กระบวนการจะทันภายใน 1 เดือนหรือไม่ เพราะมีการมองว่าอาจใช้เวลาถึง 4 เดือน นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ขนาดนั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นข้อเสนอทางเลือกที่คู่ขนานกันไปกับกระบวนการเลือกนายกฯ เพราะเราไม่รู้ว่าต้องเลือกนายกฯ อีกกี่ครั้ง หาก ส.ว.ไม่ประสงค์ใช้สิทธิ์ งดออกเสียง หรือไม่เข้าร่วมประชุม แบบนี้จะนำมาสู่ทางตันทางการเมือง ดังนั้น เราจึงเสนอทางออกให้ด้วยการปิดสวิตซ์ ส.ว.ไปเลย เพื่อคืนอำนาจในการเลือกนายกฯ ให้กับประชาชน เพราะจะไม่นำมาสู่ทางตัน ยืนยันว่าเรื่องนี้ทำคู่ขนานกันได้ หากสามารถนัดประชุมสภาได้เร็ว ซึ่งเป็นอำนาจของประธานสภาฯ ผ่านวาระ 1 แล้วรีบดำเนินการ ก็ใช้เวลาเพียง 3-4 สัปดาห์ก็เสร็จ