‘สำนักงบฯ’ เผย 9 เดือนแรกปี 66 ยอดเบิกจ่าย ‘งบลงทุน’ ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.9 หมื่นล้าน คิดเป็น 4.41% ขณะที่ยอด ‘ก่อหนี้’ รายจ่ายลงทุน ชะลอตัวลงชัดเจนในช่วง 'รัฐบาลรักษาการ'
........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงบประมาณเผยแพร่สรุปรายงานผลการเบิกจ่ายและการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2566 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2566 หรือในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบ 2566 (1 ต.ค.2565-30 มิ.ย.2566) ผลปรากฏว่า หน่วยรับงบประมาณมีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 2.43 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 76.42% ของวงเงินตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ที่มีวงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท
แบ่งเป็น 1.การเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ มีจำนวน 2.08 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 82.71% ของวงเงินรายจ่ายประจำตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ และ 2.การเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุน มีจำนวน 3.49 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 52.59% ของวงเงินรายจ่ายลงทุนตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ
ขณะที่ผลการใช้จ่ายงบประมาณ (ก่อหนี้) ในภาพรวม มีจำนวน 2.57 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 82.99% ของวงเงินตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ แบ่งเป็น 1.การใช้จ่ายรายจ่ายประจำ มีจำนวน 2.99 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 83.31% ของวงเงินรายจ่ายประจำตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ และ 2.การใช้จ่ายรายจ่ายลงทุน มีจำนวน 72.18% ของวงเงินรายจ่ายลงทุนตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบผลการเบิกจ่ายงบประมาณกับเป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2565 พบว่า การเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมสูงกว่าเป้าหมาย 4.53 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายคิดเป็น 1.42% ซึ่งเป็นผลมาจากการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำที่สูงกว่าเป้าหมาย 5.79 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายคิดเป็น 2.71% ในขณะที่การเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าเป้าหมาย 2.9 หมื่นล้าน หรือต่ำกว่าเป้าหมายคิดเป็น 4.41%
นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบกับผลการใช้จ่ายงบประมาณ (ก่อหนี้) กับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พบว่า การใช้จ่ายงบประมาณในภาพรวมสูงกว่าเป้าหมาย 1.67 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายคิดเป็น 0.53% โดยการใช้จ่ายรายจ่ายประจำสูงกว่าเป้าหมาย 5.79 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายคิดเป็น 2.3% และการใช้จ่ายรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าเป้าหมาย 4.12 หมื่นล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้าหมายคิดเป็น 6.2%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลการเบิกจ่ายรายจ่ายงบลงทุนในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2565-30 มิ.ย.2566 ที่มีการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าเป้าหมายฯ เป็นจำนวน 2.9 หมื่นล้าน หรือต่ำกว่าเป้าหมายคิดเป็น 4.41% นั้น จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2565-17 มี.ค.2566 ซึ่งเป็นช่วงก่อนยุบสภาฯ (ยุบสภาฯ 20 มี.ค.2566) ที่ผลการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าเป้าหมาย จำนวน 3.28 หมื่นล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้าหมาย 4.94%
แต่ปรากฏว่า ผลการใช้จ่าย (ก่อหนี้) รายจ่ายลงทุนเมื่อเทียบกับแผนการใช้จ่ายรายจ่ายลงทุนในปีงบ 2566 ในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2565-17 มี.ค.2566 ซึ่งเป็นช่วงก่อนยุบสภาฯ ที่เคยสูงกว่าเป้าหมาย 5.02 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่าแผนฯ 7.56% นั้น หลังจากมีการยุบสภาฯ และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการ พบว่าผลการใช้จ่าย (ก่อหนี้) รายจ่ายลงทุนมีการชะลอตัวลงอย่างชัดเจน โดยในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2565-30 มิ.ย.2566 ผลการใช้จ่าย (ก่อหนี้) รายจ่ายลงทุนต่ำกว่าแผนฯ 4.12 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 6.2%
อ่านประกอบ :
ต่ำเป้า 1%! ครม.รับทราบเบิกจ่าย 3 เดือน งบปี 66-สั่งก่อหนี้'รายการลงทุนปีเดียว'ใน มี.ค.
‘สำนักงบประมาณ’ คาดงบปี 67 ล่าช้าจากเดิม 6 เดือน-เตรียมถก 4 หน่วยงานกำหนดกรอบวงเงินใหม่