สภาผู้แทนราษฎร เห็นพ้องให้ ‘วันนอร์’ นั่งประธานรัฐสภา ขณะที่รองประธานคนที่ 1 เสนอ 2 ชื่อ ‘ปดิพัทธ์ ก้าวไกล’ กับ ‘วิทยา รวมไทยสร้างชาติ’ ที่ประชุมสั่งโหวตลับ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เมื่อเวลา 10.05 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระสำคัญคือการเลือกประธานและรองประธานรัฐสภา โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมชั่วคราว
เมื่อเข้าสู่วาระการเสนอชื่อประธานรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานรัฐสภา โดยหลังจากที่นายพิธาเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ ปรากฎไม่มีสมาชิกคนใดเสนอชื่ออื่นเข้าแข่งขัน
จากนั้น นายวันนอร์แสดงวิสัยทัศน์ว่า ขอยืนยันว่าประการแรกจะทำหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางทางการเมือง จะน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานมาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. เป็นแนวทางการปฏิบัติของพวกเราต่อไป ประการที่สอง จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส สุจริต ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ประการที่สาม จะกำหนดแนวทางกับผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ ในการพิจารณากฎหมาย กระทู้ถามอย่างเป็นระบบ ประการที่สี่ จะให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ทุกคณะ เพื่อบรรเทาแก้ไขปัญหาของประชาชน ประการที่ห้า จะร่วมกับพวกเราให้ความสำคัญกับนโยบายต่างประเทศ เน้นร่วมมืองานรัฐสภา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และประการสุดท้าย จะทำหน้าที่กำกับดูแลงานสถาบันพระปกเกล้าให้มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมงานนิติบัญญัติ รวมทั้งจะสนับสนุนทีวีและวิทยุรัฐสภา เป็นสถานีของประชาชน
เนื่องจากไม่มีการเสนอชื่อแข่ง นายวันนอร์จึงได้รับเลือกโดยอัตโนมัติ เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 2562 ที่ระบุว่า ถ้ามีการเสนอชื่อผู้ใดเพียงชื่อเดียว ให้ถือว่าผู้ถูกเสนอชื่อนั้นเป็นผู้ได้รับเลือก
@ก้าวไกล - รวมไทยสร้างชาติ ชิงรองประธาน 1
ต่อมา ที่ประชุมเข้าสู่วาระการเลือกรองประธานรัฐสภาคนที่ 1 โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ รทสช. เป็นคู่แข่ง
นายปดิพัทธ์ แสดงวิสัยทัศน์ว่า ในความตั้งใจที่อยากเสนอต่อสภาให้พิจารณา คือ อยากให้ประชาชนกลับมามั่นใจในสภาผู้แทนราษฎร จะทำให้สภาฯกลับมามีตัวตน ศักดิ์ศรี โดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร เมื่อตนได้มีโอกาสดูภารกิจของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ เพราะจะทำให้เป็น Smart Parliament ส่งเสริมงานนิติบัญญัติให้เป็นสากล เราจำเป็นต้องยกระดับฝ่ายนิติบัญญัติ และอยากเสนอให้มีการตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติในการผ่านร่างกฎหมายอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถติดตามกฎหมายได้ นอกจากนี้ยังคิดว่าจะเขียนกฎหมายที่ผ่านวาระสามเป็นภาษาอังกฤษด้วย อยากเห็นประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่ใช่เพียงแค่เลือกตัวแทนของเขาเข้าสภาฯ แต่สภาฯจะต้องรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน และเต็มที่ด้วย ตนจะใช้4ปีที่มีวางตัวเป็นกลาง ทำระบบราชการที่ทันสมัย ในโอกาสนี้ขอให้สมาชิกมอบความไว้วางใจ และสัญญาจะสนับสนุนงานประธานสภาฯ บริการสมาชิกทุกท่านด้วยความเท่าเทียม ปราศจากอคติ และทำให้สภาฯมีความสง่างาม
ด้านนายวิทยา แสดงวิสัยทัศน์ว่า หัวใจสำคัญของการทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คือความเป็นกลาง ตนจะรักษาองค์กรนิติบัญญัติเป็นองค์กรทรงเกียรติ์และคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ พร้อมปฏิบัติตามแนวทางประธานสภาฯ มั่นใจจะรักษาเกียรติภูมิและหน้าตาของสภานิติบัญญัติ จะวางตัวเป็นกลาง และให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นสภาผู้แทนราษฎร
หลังจากแสดงวิสัยทัศน์แล้ว ที่ประชุมได้ให้สมาชิก ส.ส.ลงคะแนนแบบลับโดยการเขียนชื่อ ซึ่งมีผู้มาแสดงตน 493 คน และได้เข้าสู่การลงคะแนนลับเมื่อเวลา 11.07 น. โดยเลขาธิการสภาจะเรียก ส.ส.ให้รับบัตรลงคะแนนตามลำดับทีละ 20 คนต่อไป