ป.ป.ช.ภาค 1 แถลงผลปราบคดีทุจริตไตรมาสแรกปี 66 คอนเฟิร์ม ชี้มูล 'ทรงชัย นกขมิ้น' นายก อบต.ราชาเทวะ คดีจัดซื้อกล้อง CCTV วงเงิน 75 ล้าน นอกจากนี้ยังมีคดีร่ำรวยผิดปกติ อดีต อบต.บางกระสัน มีทรัพย์ 29 ล้านแจงที่มาไม่ได้-ส่วนอดีต นายกฯอบต.หนองแค พบร่ำรวยเพิ่มขึ้น 33 ล้าน ไม่ทราบสาเหตุ-ระบุไตรมาสแรกมีเหตุจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน 4 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าวันนี้ (30 มิถุนายน 2566) นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 1 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 พร้อมด้วยผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในเขตพื้นที่ภาค 1 แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านป้องกันการทุจริต ด้านปราบปรามการทุจริตในช่วงไตรมาสแรกปี 2566
โดยมีคดีที่น่าสนใจดังนี้
ในการประชุมครั้งที่ 64/2566 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ กับพวก ในโครงการจัดซื้อกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพร้อมติดตั้ง พร้อมอุปกรณ์ควบคุมการทำงานครบชุด ในปี 2557 งบประมาณ 75,000,000 บาท ชี้มูลความผิดอาญาและวินัย
- จัดซื้อCCTV ปี 57! ป.ป.ช.ชี้มูล'ทรงชัย นกขมิ้น'คดีที่ 2-สตง.เคยสอบราชการเสียหาย12.4 ล.
- เปิดชื่อ 'ผู้ถูกกล่าวหา'คดีจัดซื้อ CCTV ราชาเทวะ 75 ล.- 'ทรงชัย' โดนพ.ร.บ.ฮั้วด้วย
สำหรับคดีอื่นๆ ในการประชุมครั้งที่ 138/2565 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ป.ป.ช.ได้มีมติว่า นายสมทรง ลีวัฒนะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางกระสั้น ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติหรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 29,169,766.40 บาท
โดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรค หนึ่ง แล้ว
และในการประชุมครั้งที่ 138/2565 เช่นเดียวกัน ป.ป.ช.ก็ได้มีมติชี้มูล นายพุฒิพงศ์ อยู่ถาวร ขณะดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาหมอ ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 33,445,315 บาท ได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาแล้ว
ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ยังได้แถลงผลการดำเนินงานตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของภาค 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 915 บัญชี ประกอบด้วย การตรวจสอบปกติ การตรวจสอบยืนยัน และการตรวจสอบเชิงลึก ดังนี้
- การตรวจสอบปกติ จำนวน 882 บัญชี
- การตรวจสอบยืนยัน จำนวน 32 บัญชี
- การตรวจสอบเชิงลึก จำนวน 1 บัญชี
- กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นในเขตจังหวัดลพบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 4 ราย
- กรณีรับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น กรณีร่ำรวยผิดปกติ ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ในเขตจังหวัดปทุมธานี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดอ่างทอง กรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 4 ราย