"...นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 10, 11 , 12 และตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ปัจจุบันแก้ไขเป็นมาตรา 172 ..."
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในคดีจัดซื้อกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พร้อมติดตั้งในเขต อบต.ราชาเทวะ วงเงิน 75 ล้านบาท เมื่อปี 2557 นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า
1. คดีนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สมุทรปราการ เคยตรวจสอบพบว่า อบต.ราชาเทวะ นำโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด เข้าสู่สภา อบต. เพื่อขออนุมัติงบจ่ายขาดเงินสะสมโดยไม่เป็นไปตามระเบียบ ข้อกฎหมาย หลายประมการ ซึ่งแม้จะเป็นการปฏิบัติตามระเบียบการะทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน แต่เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ควรดำเนินการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในรายจ่ายเพื่อการลงทุน ขณะที่ ผู้กำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลาง ไม่มีผู้มีความรู้ ความชำนาญการ จากการตรวจสอบเปรียบเทียบราคาในอินเตอร์เน็ต สตง. พบว่ามีราคาสูงเกินกว่าราคาตลาด ส่งผลให้ราชการเสียหายเป็นเงิน 12,498,004 บาท
2. คดีนี้เป็นคดีที่สอง ที่นายทรงชัย ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มููลความผิดต่อจากคดีทุจริตประกวดราคาซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันได จำนวน 1 คัน วงเงิน 39,950,000 บาท ในช่วงปี 2555 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายทรงชัย นกขมิ้น ไปแล้ว โดยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2565 ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับรับฟ้อง และให้ประกันตัว นายทรงชัย และพวกทุกราย โดยจำเลยหลัก ๆ ในคดีนี้ ตั้งหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้คนละประมาณ 4 แสนบาท
ส่วนคำร้องของ ป.ป.ช.ให้นายทรงชัย หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกอบต.ราชาเทวะ ศาลฯ ให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาของนายทรงชัย ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับ อบต. ซึ่งในกรณีนี้ ทาง ป.ป.ช. จะทำเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้พิจารณาเรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายทรงชัยอีกครั้ง เพราะขณะนี้ศาลฯ มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีนายทรงชัยเป็นทางการแล้ว (ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า ผลการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างไร)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า เกี่ยวกับคดีจัดซื้อกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พร้อมติดตั้งในเขต อบต.ราชาเทวะ วงเงิน 75 ล้านบาท เมื่อปี 2557นั้น
ในชั้นการไต่สวนเบื้องต้นของ ป.ป.ช. มีจำนวนผู้ถูกกล่าวหานับสิบราย
ก่อนที่ คณะไต่สวนฯ จะสรุปผลการชี้มูลผู้ถูกกล่าวหา เสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
@ กลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ อบต.ราชาเทวะ มี 4 ราย ได้แก่
1. นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 10, 11 , 12 และตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ปัจจุบันแก้ไขเป็นมาตรา 172
2. นางสาวรักยิ้ม เฮงหลี (หัวหน้าฝ่ายพัสดุและทรัพย์สิน ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการกองคลัง อบต.ราชาเทวะ ) มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ปัจจุบันแก้ไขเป็นมาตรา 172 และยังมีโทษความผิดทางวินัยร้ายแรง
3. นางหทัยพัชร์ ช่วงชู และ 4. นายเดชา เพ็ชรไทย มีมูลความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
@ กลุ่มเอกชน มีจำนวน 5 ราย ได้แก่
1. บริษัท ไอ มีเดียอินโนเวชั่น จำกัด
2. นายธานัท ธนนันทิธร หรือนายอิศรทรัพย์ รัตนอมรชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ไอ มีเดียอินโนเวชั่น จำกัด
3. ห้างหุ้นส่วนจำกัดพีแอลเอส ดาต้า
4. นายสุธน ศิริพฤกษ์ อดีตหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด พีแอลเอส ดาต้า
5. นางสาวนารญา จิรานัทรุจ หรือนางสาวมณีลดา ดนตรี พนักงานบริษัท ไอ มีเดียอินโนเวชั่น จำกัด
มีมูลความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 86 และ พ.ร.บ.ฮั้ว พ.ศ.2542 มาตรา 4 , 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ปัจจุบันแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็น มาตรา 172
แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ข้อมูลยืนยันว่า เดิมทีคดีนี้ มีชื่อ นายสุนทร อ่อนแก้ว อดีตนิติกร รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ ปรากฏชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย แต่เนื่องจากปัจจุบัน นายสุนทร ถึงแก่ความตายแล้วไป สิทธิ์นำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไป จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
อย่างไรก็ดี ในรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาเหล่านี้ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเป็นทางการเฉพาะในส่วนของ นายทรงชัย ว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ เอกฉันท์ชี้มูลความผิดเป็นทางการ
ส่วนผู้ถูกกล่าวหารายอื่น จะถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดตามที่คณะไต่สวนเสนอหรือไม่
คงต้องรอฟังผลการแถลงข่าวของสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นทางการอีกครั้ง
อนึ่ง การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสูด ผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังมีสิทธิ์ต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลได้อีก