ทางการฟินแลนด์เผยฤดูกาลนี้ยังไร้แรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ เหตุ กต.ฟินแลนด์เปลี่ยนมาตรการใหม่-จนท.ยังต้องสอบสวนเหตุอาชญากรรมในกระบวนการขอวีซ่า ขณะเอกชนฟินแลนด์หวั่นกระทบอุตสาหกรรมผลไม้-ชี้มาตรการปัจจุบันจะขอวีซ่าเก็บเบอร์รี่ได้ ต้องมีเงินอย่างน้อย 1,121 บาท ต่อวัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์แรงงานไทยที่ไปเก็บเบอร์รี่ที่ประเทศฟินแลนด์ว่าทางการฟินแลนด์ได้ออกมากล่าวว่าจะงดการออกวีซ่าให้กับแรงงานไทยไปก่อนในช่วงฤดูกาลนี้ เนื่องจากพบว่ามีข้อบกพร้อมเกี่ยวกับเอกสารการสมัครแรงงาน
โดยข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ระบุว่ามีกลุ่มคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปฟินแลนด์เพื่อจะทำงานเก็บเบอร์รี่ตามฤดูกาลยังไม่สามารถยื่นคำขอวีซ่าได้เนื่องจากว่าตอนนี้กระบวนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงดำเนินต่อไป ด้วยข้อสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดกฎหมายอาญาในกระบวนการส่งแรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่เกิดขึ้น
ดังนั้นจึงส่งผลทำให้การมีแรงงานไทยเพื่อจะเก็บเบอร์รี่ในช่วงฤดูกาลนี้ ยังคงเป็นสิ่งที่น่าเคลือบแคลงในและทำให้เกิดความกังวลในหมู่เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ของประเทศฟินแลนด์
ทั้งนี้ย้อนไปเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา มีแรงงานคนไทยกว่า 4,000 คน เดินทางไปเก็บเบอร์รี่ที่ประเทศฟินแลนด์ผ่านกระบวนการขอวีซ่า ซึ่งแรงงานดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เข้าสู่เดือน มิ.ย.ปีนี้เป็นต้นมา ยังคงไม่มีแรงงานไทยแม้แต่รายเดียวสามารถเข้าประเทศเพื่อไปเก็บเบอร์รี่ได้
ทางด้านของนาง Katja Luopajärvi รองหัวหน้าหน่วยตรวจคนเข้าเมืองที่กระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าสาเหตุทีเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นก็เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงมาตรการและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมือง
“เรามีความรู้สึกว่าเราต้องทบทวนการปฏิบัติ การสืบสวนของตํารวจเริ่มขึ้นเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว และนี่ก็เข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่มีการสืบสวนเกิดขึ้นเป็นต้นมา” นาง Luopajärvi กล่าวและเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงมาตรการเป็นสิ่งที่จำเป็น
ส่วนสำนักข่าว Yle News ได้รายงานข่าวว่าในปีนี้ บริษัทหลายๆแห่งที่มีส่วนในอุตสาหกรรมเบอร์รี่จะต้องรับมือกับสถานการณ์ ต้องดำเนินการจัดหาแรงงานเก็บเบอร์รี่ด้วยตัวเอง โดยไม่มีความช่วยเหลือจากทางการแต่อย่างใด
ประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลอย่างยิ่ง ขระที่นาง Birgitta Partanen ผู้อํานวยการบริหารของสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ Arctic Aromas กล่าวว่ากิจกรรมดังกล่าวนั้นหยุดนิ่งไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากว่าหลักปฏิบัติที่ยังไม่ชัดเจน ทําให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการและในเวลาเดียวกันส่งผลทำให้บริษัทต่างๆมีความไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถดําเนินกิจกรรมได้ตามปกติหรือไม่
“จากข้อมูลล่าสุดยังไม่มีการออกวีซ่า สิ่งนี้ทำให้เราไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อถึงจุดหนึ่งดูเหมือนว่าสิ่งต่าง ๆ เริ่มหมุน เดินหน้าไปได้ แต่ในทางปฏิบัติพวกเขายังไม่คืบหน้าจริงๆ” นาง Partanen กล่าว
ทางด้านของนาง Luopajärvi กล่าวอีกว่าบริษัทคู่ค้าของประเทศฟินแลนด์ซึ่งก็คือบริษัท VFS ที่ทำหน้าที่รับใบสมัครขอวีซ่า ก็พบว่าบริษัทแห่งนี้รับจำนวนคำขอวีซ่าลดลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีเอกสารที่แนบไปพร้อมกับใบสมัครไม่มีความพร้อมจึงทำให้ไม่ได้ส่งใบสมัครเป็นจำนวนมาก
อนึ่ง ภายใต้ระเบียบการปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปเก็บเบอร์รี่ที่ประเทศฟินแลนด์จะต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับข้อกำหนดทางการเงินในช่วงเวลาที่ยื่นขอเชงเก้นวีซ่า โดยพวกเขาจะต้องแสดงหลักฐานว่ามีเงินอย่างน้อย 30 ยูโร (1,121 บาท) ต่อวัน ขณะที่วีซ่าสำหรับแรงงานเก็บเบอร์รี่นั้นมีผลให้เจ้าของวีซ่าสามารถอยู่ในฟินแลนด์ได้สูงสุด 90 วัน