แพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'วิชัย ปานอุทัย' อดีตผอ.หน่วยตรวจสอบภายใน สพป.เชียงใหม่ เขต 5 ทุจริตจัดอบรมโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม- ธรรมาภิบาล ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 8 เดือน แต่รอลงอาญา -ยกฟ้อง พวก 2 ราย ป.ป.ช. ค้าน อสส. ไม่อุทธรณ์สู้ต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายวิชัย ปานอุทัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยตรวจสอบภายใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ (สพป.) เขต 5 กับพวก คือ น.ส.ดารารัตน์ วงค์สถาน , น.ส.วิรัก สุขรักษ์ ทุจริตในการจัดอบรมโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษาปีงบประมาณ 2560
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 , 162 (1), (4) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายวิชัย ปานอุทัย จำเลย 1 มีความผิดตาม มาตรา 162 (1),(4) จำคุก 1 ปี และปรับ 30,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยที่ 1 นับว่า เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง
ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 20,000 บาท
โดยโทษจำคุกให้ รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปีกับ ให้จำเลยที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน 4,200 บาท แก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 5
2. ยกฟ้อง น.ส.ดารารัตน์ วงค์สถาน จำเลยที่ 2 , น.ส.วิรัก สุขรักษ์ จำเลยที่ 3
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติไม่เห็นชอบในกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา ในส่วนยกฟ้องจำเลยที่ 1 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 และในส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท