เกษตรกรกระบี่รวมตัวยื่นหนังสือร้องเรียนกรมส่งเสริมสหกรณ์ แก้ไขปัญหาที่ดินนิคมทุกมิติ ยกกรณีคลองท่อม เป็นวาระแห่งชาติบูรณาการร่วมส่วนราชการอื่น สกัดทุน-นักวิชาการรุกที่ดิน หลังปรากฏหลักฐานชัดมีออกเอกสารมิชอบรอบโรงงานสกัดน้ำมัน และอีกกว่า 300 แปลง ขณะที่กรมฯ ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีอดีตผอ.นิคม-4 จนท. พร้อมผู้เกี่ยวข้องแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) ได้เดินทางลงพื้นที่สหกรณ์นิคมคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ตามคำสั่งของนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยมีนายประเสริฐศักดิ์ ณ นคร สหกรณ์จังหวัดกระบี่ นายเติมศักดิ์ เสียมไหม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์อ่าวลึก รักษาราชการผู้อำนวยการนิคมคลองท่อม พร้อมกับบรรดาหัวหน้าส่วนราชการของสหกรณ์จังหวัดกระบี่ ให้การตอนรับและบรรยายสรุป พฤติกรรมการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบทับที่ดินสหกรณ์นิคมคลองท่อม
ระหว่างการลงพื้นที่มีเครือข่ายเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์และเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้กรมส่งเสริมสหกรณ์แก้ไขปัญหาที่ดินนิคมสหกรณ์ทุกมิติทุกด้านไม่เลือกปฎิบัติด้านใดด้านหนึ่งและขอให้ยกกรณีของจังหวัดกระบี่ เป็นวาระแห่งชาติในการบูรณาการกับส่วนราชการอื่นๆ ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ตัวแทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเวร สภ.คลองท่อม ดำเนินคดีกับอดีตผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์คลองท่อม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว จำนวน 4 ราย และผู้ที่ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินนิคมคลองท่อมโดยไม่ชอบ มีทั้งนายทุน นักธุรกิจ นักวิชาการ ระดับรองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ และข้าราชการหลายระดับ ผู้นำท้องถิ่น และเครือข่ายนักการเมืองแล้ว
@ เกษตรกรกระบี่รวมตัวยื่นหนังสือร้องเรียนกรมส่งเสริมสหกรณ์
ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า ตามที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชนและโซเชียมีเดียต่อเนื่อง น่าจะเป็นที่ทราบกันอย่างดีว่า วงการสหกรณ์จังหวัดกระบี่ และ นิคมสหกรณ์จังหวัดกระบี่ ไม่อยู่ในสภาวะปกติ แต่น่าจะอยู่ในสภาวะวิกฤตจะด้วยเหตุผลต่างๆที่สะสมกันมานาน แต่เครือข่ายสมาชิกสหกรณ์ เครือข่ายเกษตรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ได้เล็งเห็นว่า ในสภาวะไม่ปกติเช่นนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์น่าจะต้องจำเป็นบูรณาการกับส่วนราชการอื่นๆ หรือแม้แต่ข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ ก็น่าจะปรับทัศนะคติหันมาให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการทุจริตต้นตอของปัญหาจนนำไปสู่การไม่สามารถพัฒนา หรือ การพัฒนาบนสภาวะที่มีการทุจริต
การที่ปล่อยให้ผู้บริหารสหกรณ์ที่ประสบปัญหาในสหกรณ์เดิมยังมามีอำนาจในสหกรณ์ใหม่ หรือแม้แต่ในชุมนุมสหกรณ์ที่เป็นแม่ข่ายของสหกรณ์ การบริหารจัดการของสหกรณ์ลูกข่ายที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จอาทิ เช่น เป็นผู้จัดการเอง เป็นกรรมการเองในนาม ตัวแทน และประธานกรรมการเอง ในนามตัวแทน หากเกิดความผิดพลาดขึ้นย่อมต้องส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ถือหุ้น
พฤติกรรมแบบนี้ กรมส่งเสริมต้องปรับเปลี่ยนนานาทัศนะหันมาร่วมกันจัดการกับสหกรณ์เหล่านี้ให้ไม่เกิดความผิดพลาดและให้เป็นไปตามอุดมการณ์ของสหกรณ์ และควรจะจัดการกับสหกรณ์อื่นๆที่ล้มเหลวเพราะการบริหารจัดการแบบที่กล่าวมา ซึ่งมีให้เห็นมากกว่า 2 สหกรณ์ในจังหวัดกระบี่ ในฐานะที่ผู้บริหารสูงสุดของกรมส่งเสริมสหกรณ์น่าเชื่อว่ามีอำนาจในการบริหารจัดการได้ทุกสหกรณ์หากประสงค์จะแก้ปัญหา
หนังสือร้องเรียน ยังระบุอีกว่า ในประเด็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในนิคมสหกรณ์ ที่มีอำนาจในการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ที่ดินสหกรณ์จนนำไปสู่การออกโฉนดที่ดินได้ หากมีการทุจริตเกิดขึ้น และนำโฉนดที่ดินที่ออกโดยการทุจริต หรือเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์เองในฐานะที่มีอำนาจในการบริหารจัดการที่ดินในนิคมสหกรณ์ ควรที่จะรีบดำเนินการยกเลิกเพิกถอนทบทวนคุณสมบัติของสมาชิกนิคมสหกรณ์โดยด่วน
เนื่องจากเมื่อที่ดินที่ได้ออกเป็นโฉนดที่ดินแล้ว สามารถจำหน่ายจ่ายโอนไปยังบุคคลที่สามได้ จะส่งผลกระทบอย่างรุ่งแรงต่อระบบเศรษฐกิจ จะขอยกตัวอย่างกรณีที่ที่ดินสามแปลง ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบด้วยกระบวนการ และนำมาขายให้กับชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ มีการนำเอาเงินของสมาชิกไปจ่ายให้กับผู้ที่ดำเนิน หลายล้านบาท
กรณีเช่นนี้กรมส่งเสริมต้องรับผิดชอบในพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่และพฤติกรรมที่ร่วมกันทุจริตของผู้บริหารสหกรณ์ควรจะเร่งทำความจริงให้ปรากฏและนำเอาคนที่กระทำความผิดมาลงโทษไม่ให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างในด้านลบของสมาชิกนิคมสหกรณ์ และ ผู้บริหารสหกรณ์
กรณีของที่ดินสามแปลงรอบโรงงานสาขาคลองท่อม กรมส่งเสริมสหกรณ์ต้องจริงจังในการแก้ปัญหา ไม่ปล่อยให้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน เว้นแต่เป็นเกษตรกรตามปรัชญาของการจัดที่ดินของนิคมสหกรณ์
"จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นเครือข่ายเกษตรกรประสงค์จะให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ยกกรณีของการบริหารสหกรณ์และที่ดินนิคมสหกรณ์มาแก้ปัญหาทุกมิติทุกด้านไม่เลือกปฎิบัติด้านใดด้านหนึ่งเพื่อกรณีศึกษาของการแก้ปัญหาการทุจริตในสหกรณ์และการบริหารนิคมสหกรณ์และขอให้ยกกรณีของจังหวัดกระบี่ เป็นวาระแห่งชาติในการบูรณาการกับส่วนราชการอื่นๆ เพื่อการแก้ปัญหาให้เกษตรกรณ์อย่างจริงจัง"
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรมส่งเสริมสหกรณ์ จะสามารถแก้ปัญหาในการทุจริตในสหกรณ์ต่างๆในจังหวัดกระบี่ ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดรักษาประโยชน์ให้กับสมาชิกสหกรณ์และสามารถแก้ปัญหาการจัดสรรที่ดินนิคมสหกรณ์โดยไม่มีการทุจริตและที่ดินถึงมือเกษตรกรตามปรัชญาการจัดที่ดินตามพระราชบัญญัติการจัดที่ดินนิคมสหกรณ์ ขอแสดงความนับถือ เครือข่ายสมาชิกสหกรณ์และเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่"
ขณะที่แหล่งข่าวในกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรณีเรื่องนี้ นายวิศิษฐ์ ได้ประสานการปฎิบัติกับ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่รับผิดชอบกำกับดูแลกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และส่งข้อมูลการทุจริตออกเอกสารสิทธิ์มิชอบ กว่า 300 แปลง ให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ยังได้มอบหมายให้ตัวแทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเวร สภ.คลองท่อม ดำเนินคดีกับ อดีตผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์คลองท่อม และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว จำนวน 4 ราย และผู้ที่ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินนิคมคลองท่อมโดยไม่ชอบ มีทั้งนายทุน นักธุรกิจ นักวิชาการ ระดับรองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ และข้าราชการหลายระดับ ผู้นำท้องถิ่น และเครือข่ายนักการเมือง
อ่านประกอบ: