แพร่ประกาศ ปปง.ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน หลัง คกก.ธุรกรรมสั่งอายัดทรัพย์ บุคคล 3 ราย คดีฉ้อโกง มีกลุ่มบุคคลเจ้าของบัญชีเงินฝาก ถูกใช้รับโอนเงินที่ได้จากหลอกลวงประชาชนด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน 3 ราย ได้แก่ นางสาวนก อรรคดี กับพวก รายนายสุรเดช วรรักษ์ กับพวก และ รายนายมนัส ทองดี กับพวกและกลุ่มบุคคลเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารซึ่งถูกใช้เป็นบัญชีในการโอนหรือรับโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชน ดังนี้
1.ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ราย นางสาวนก อรรคดี กับพวก มีก าหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการ ธุรกรรมมีมติ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าว และไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคำร้อง ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้(ดูลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D082S0000000001100.pdf)
2.ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ราย นายสุรเดช วรรักษ์ กับพวก มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าว และไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคำร้อง ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้(ดูลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D082S0000000001200.pdf)
3.ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย นายมนัส ทองดี กับพวก และกลุ่มบุคคลเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งถูกใช้เป็นบัญชี ในการโอนหรือรับโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชน มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่ง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าว และไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคำร้อง ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ (ดูลิงก์
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D082S0000000001300.pdf) )