เผยมติ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหา 'อรภิญญ์ ดีผดุง' อดีตผอ.สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานศาลยุติธรรม กลั่นแกล้งจนท.กล่าวหา กระทำผิดวินัยเป็นเท็จ ย้ายไปช่วยราชการโดยมิชอบ- เหตุพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหา นางอรภิญญ์ ดีผดุง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานศาลยุติธรรม กรณีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด โดยกลั่นแกล้งกล่าวหาว่านายจิตเกษม พัฒนาศิริ กระทำความผิดวินัยในตำแหน่งหน้าที่อันเป็นความเท็จ และย้ายนายจิตเกษมฯ ไปช่วยราชการประจำสำนักอำนวยการประจำศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยมิชอบ
ระบุพฤติการณ์กระทำความผิด คือ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551 สํานักงานศาลยุติธรรมมีคําสั่ง ที่ 270/2551 ลงวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ผู้กล่าวหา ข้าราชการศาลยุติธรรม ตําแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ 7 วช. สํานักเทคโนโลยีสารสนเทศ กรณีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมส่อไปในทางไม่สุจริต กระทําการบางอย่างที่อาจเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทใดบริษัทหนึ่งเกี่ยวกับการดําเนินการประกวดราคาเพื่อจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ และได้มีคําสั่งที่ 269/2551 ลงวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551 ให้นายจิตเกษมฯ ไปช่วยราชการประจําที่สํานักอํานวยการประจําศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ
มูลกรณีสืบเนื่องมาจากสํานักงานศาลยุติธรรม ได้มีคําสั่งสํานักงานศาลยุติธรรมที่ 1579/2550 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการดําเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์โครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดี โดยแต่งตั้งผู้กล่าวหา ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา โดยในระหว่างปฏิบัติหน้าที่กรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาผู้กล่าวหาได้เรียกเอกสารเพิ่มเติมจากบริษัทผู้เข้าร่วมเสนอราคา และได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปถึงบุคคลภายนอกเพื่อให้ร้องเรียนการพิจารณาผลการประกวดราคาการการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ โครงการเชื่อมโยงเครือข่ายศาลยุติธรรมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนระบบ GFMIS เพื่อนําผลการร้องเรียนมาประกอบการพิจารณาการจัดหาคอมพิวเตอร์โครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดี อันเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมส่อไปในทางไม่สุจริต อาจเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง เกี่ยวกับการดําเนินการประกวดราคาเพื่อจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ ตามโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดี ที่กําหนดให้มีการยื่นซอง ประกวดราคาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 และเปิดซองประกวดราคาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 จนเป็นเหตุให้ต้องยกเลิกการพิจารณาผลการประกวดราคาดังกล่าว
โดยผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ และเป็นคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาในโครงการเชื่อมโยงเครือข่ายศาลยุติธรรมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนระบบข้อมูล GFMIS) ได้พิจารณาให้บริษัท นิปด้า คอมพิวเทค จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา
ต่อมาในวันถัดจากวันพิจารณาผลการประกวดราคา ผู้ถูกกล่าวหาได้เรียกนักวิชาการคอมพิวเตอร์ในส่วนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และส่วนสนับสนุนและบริการคอมพิวเตอร์ เข้าพบเพื่อสอบถามเรื่องการออกหนังสือชี้แจงรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ในส่วนหน่วยประมวลผลกลางในโครงการเชื่อมโยงเครือข่ายศาลยุติธรรมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนระบบข้อมูล GFMIS ซึ่งส่วนเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นผู้รับผิดชอบ
โดยหนังสือชี้แจงระบุว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 250 ชุด ที่เสนอต้องอยู่ในสายการผลิตและต้องมีใบรับรองจากผู้ผลิตว่ายังอยู่ในสายการผลิต ซึ่งไม่ตรงกับหนังสือชี้แจงรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยประมวลผลกลางในโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดี ซึ่งส่วนสนับสนุนและบริการคอมพิวเตอร์ชี้แจงว่าเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เป็นผู้รับรอง
ผู้กล่าวหาได้ชี้แจงว่าไม่ได้เห็นขัดแย้งกับหนังสือชี้แจงรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ในส่วนหน่วยประมวลผลกลางในโครงการเชื่อมโยงเครือข่ายศาลยุติธรรมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนระบบข้อมูล GFMIS แต่ได้อธิบายเพิ่มเติมให้ชัดเจนว่าสิ่งที่สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนดโดยแท้จริงนั้น คือการรับรองหน่วยประมวลผลกลาง และผู้ที่ต้องรับรองสายการผลิตหน่วยประมวลผลกลาง ได้แก่บริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกลาง มิใช่บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ผู้ถูกกล่าวหาได้พยายามขอให้ผู้กล่าวหาเห็นด้วยกับการพิจารณาของผู้ถูกกล่าวหาว่าหน่วยประมวลผลกลาง คือเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งชุด และบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์สามารถรับรองสายการผลิตหน่วยประมวลผลกลางได้ แต่ผู้กล่าวหาปฏิเสธไม่เห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว
จึงเป็นเหตุให้ผู้ถูกกล่าวหากลั่นแกล้งกล่าวหาผู้กล่าวหา ว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการพิจารณาโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดี ทำให้เกิดการยกเลิกการพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการดังกล่าว และย้ายผู้กล่าวหาไปช่วยราชการที่สำนักอำนวยการประจำศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นการไม่ชอบ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติว่า ทางคดีมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยุติรับฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานศาลยุติธรรม และเป็นคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาในโครงการต่างๆ ของสำนักงานศาลยุติธรรมโดยตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล การสนับสนุน ส่งเสริม วางแผน และติดตามประมวลผลการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ รวมทั้งพัฒนาระบบงาน และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม และภารกิจอื่นที่ได้รับมอบหมาย ได้ดำเนินการพิจารณายกเลิกการพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดี โดยพิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา เพราะได้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ก่อนที่จะมติที่ประชุมให้ประกาศยกเลิกการพิจารณาผลการประกวดราคา และได้รายงานผลการดำเนินการในโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดีดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชา ตามระเบียบขั้นตอน จึงเป็นการดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย คำกล่าวหาของผู้กล่าวหา
ที่อ้างว่าผู้ถูกกล่าวหา กลั่นแกล้งกล่าวหาว่าผู้กล่าวหา กระทำความผิดวินัยในตำแหน่งหน้าที่ เป็นผลให้ผู้กล่าวหาถูกย้ายไปช่วยราชการประจำสำนักอำนวยการประจำศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ก็ไม่ปรากฏพยานหลักฐานยืนยันในข้อเท็จจริงตามคำกล่าวหา
แต่กลับปรากกฎข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งว่าผู้กล่าวหา ถูกเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมตั้งคณะกรรมการสืบสวนฯ มีคำสั่งย้ายผู้กล่าวหาย้ายไปช่วยราชการประจำสำนักอำนวยการประจำศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนมีผลการพิจารณาให้ลงโทษผู้กล่าวหานั้น ก็เป็นผลมาจากการที่ผู้กล่าวหาในขณะที่เป็นคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์โครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนในห้องพิจารณาคดี ได้ขอเอกสารเกี่ยวกับเมนบอร์ดเพิ่มเติมจากผู้เข้าประกวดราคา ในขณะนั้นได้พ้นกําหนดเวลารับซองประกวดราคาแล้ว โดยที่คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาไม่ได้มอบหมาย และส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ไปให้บุคคลภายนอกและบริษัทที่เคยแพ้การประกวดราคาในโครงการอื่นๆ ร้องเรียนการพิจารณาผลของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาในโครงการดังกล่าว จึงเป็นเพียงแต่คำกล่าวอ้างที่ปราศจากพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา
อีกทั้งคำกล่าวหายังมีข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง พยานหลักฐานในคดีจึงไม่อาจรับฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ผู้กล่าวหาได้กล่าวหา
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป