มาเลเซียจับเรือประมงขณะกำลังลักลอบขนน้ำมันดีเซลกว่า 8,000 ลิตรเข้าไทย มูลค่าในมาเลเซียรวม 1.2 แสนบาท เผยมีลูกเรือ 2 คนเป็นคนไทย สมคบกับกัปตันเรือชาวมาเลย์ฯดัดแปลงเรือซุกน้ำมัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวในต่างประเทศว่าเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา สํานักงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลของมาเลเซียหรือ MMEA ได้ยุติความพยายามที่จะลักลอบขนน้ำมันดีเซลกว่า 8,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่ากว่า 16,000 ริงกิต ในตลาดที่ประเทศมาเลเซีย (123,931 บาท) ภายหลังจากที่มีการจับกุมชาวประมงจำนวน 4 รายในน่านน้ำนอกเมืองกัวลาเปอร์ลิส รัฐปะลิส เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามถ้าหากน้ำมันดีเซลดังกล่าวเข้ามาขายในตลาดประเทศไทยจะมีราคาทั้งสิ้น 267,520 (อ้างอิงตามราคาน้ำมันวันที่ 25 มี.ค.)
โดยนายโมห์ด ฮาชิม มัต เซน ผู้อำนวยการเขตการเดินเรือของ MMEA ที่กัวลาเปอร์ลิสกล่าวว่าเรือลาดตระเวนของ MMEA ได้มีการตรวจพบเรือประมงแบบประเภท C เข้ามาในน่านน้ำเมื่อเวลา 5.23 น. และอยู่ห่างไปทางตะวันตก 2.3 ไมล์ทะเลจากเมืองกัวลาเปอร์ลิส และมุ่งหน้าไปยังชายแดนทางทะเลระหว่างไทยและมาเลเซีย
ข้อมูลจาก MMEA ระบุว่าเรือลำนี้ดำเนินการโดยกัปตันที่เป็นคนท้องถิ่นหนึ่งรายและลูกเรืออีกสามราย โดยมีรายงานว่าลูกเรือจำนวนสองรายนั้นเป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 39 ปี และ 46 ปี
“โดยเมื่อเราสำรวจเรือ เราพบว่าเรือนั้นมีการดัดแปลงเพิ่มเติมเพื่อให้ใส่ถังน้ำมันได้” นายฮาชิมกล่าวและกล่าวต่อไปว่าส่วนมูลค่าของเรือดัดแปลงที่ได้ทำการตรวจยึดเมื่อรวมกับน้ำมันนั้นจะมีมูลค่าอยู่ที่ 216,000 ริงกิต (1,673,080 บาท)
นายฮาชิมกล่าวต่อไปว่าการเข้าตรวจค้นดังกล่าวนั้นมาจากข้อมูลที่ได้จากทางสายข่าวของ MMEA ในเมืองกัวลาเปอร์ลิสในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับคดีนี้จะถูกสืบสวนตามความผิดภายใต้กฎหมายว่าด้วยการประมงปี 1985 ในข้อหาว่ามีการปรับปรุงถังน้ำมันเพิ่มเติมโดยไม่ได้ข้ออนุญาต สืบสวนภายใต้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอุปทานปี 1961 ในข้อหาว่ามีการลักลอบขนน้ำมันดีเซลและและสืบสวนตามความผิดมาตรา 239 ตามกฎหมายว่าด้วยการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซีย 1988 ในข้อหาว่ามีการครอบครองอุปกรณ์สื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรียบเรียงจาก:https://www.nst.com.my/news/crime-courts/2023/03/892500/mmea-foils-bid-smuggle-8000-litres-diesel-thailand