Signature ธนาคารคริปโตยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ล้มอีกแห่ง รัฐรีบอุ้มทรัพย์สินกว่าแสนล้านดอลลาร์ฯ ด้าน ปธน.ไบเดน ขอ ปชช.สหรัฐฯมั่นใจยังเข้าถึงเงินฝากได้ ขณะธนาคาร HSBC เข้าซื้อกิจการธนาคาร SVB สาขาสหราชอาณาจักร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการล้มละลายของธนาคารในสหรัฐอเมริกาว่ามีรายงานว่าธนาคาร"ซิกเนเจอร์" (Signature Bank) ในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นธนาคารที่เน้นด้านคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ถูกทางการสหรัฐฯ สั่งปิด และให้บรรษัทประกันเงินฝาก (Federal Deposit Insurance Corporation) เข้ากำกับดูแลสินทรัพย์กว่า 1.103 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินฝากอีก 8.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลทำให้ธนาคาร"ซิกเนเจอร์" กลายเป็นการล้มครั้งใหญ่สุดครั้งที่ 3 ของประวัติศาสตร์การธนาคารของสหรัฐฯ
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ พร้อมด้วยธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด และบรรษัทประกันเงินฝาก ประกาศว่าเงินฝากในธนาคาร"ซิลิคอน วัลเลย์" และธนาคาร "ซิกเนเจอร์" จะได้รับการคุ้มครองทั้งหมด โดยผู้ฝากจะสามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ และผู้เสียภาษีจะไม่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายใดใดจากความเคลื่อนไหวนี้ ขณะที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า จะเสนอความช่วยเหลือผ่านโครงการ "แบงก์ เทอม ฟันดิง" (Bank Term Funding Program) เพื่อให้ธนาคารสามารถยืมเงินจากโครงการในช่วงวิกฤตได้ง่ายขึ้น
ขณะที่ ประธานาธิบดี"โจ ไบเดน" ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ชาวอเมริกันมั่นใจได้ว่าเงินฝากธนาคารของตนจะยังอยู่ที่นั่นเมื่อพวกเขาต้องการมัน และเขามุ่งมั่นที่จะนำผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อความยุ่งเหยิงในครั้งนี้มารับผิดชอบอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งลอนดอน (Bank of London) ประกาศว่า ได้ยืนข้อเสนออย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าซื้อธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank : SVB) สาขาสหราชอาณาจักร รวมทั้งส่งเรื่องไปยังกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England)แล้ว เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายต่อบริษัทด้านเทคโนโลยีของอังกฤษ ขณะที่ นายกรัฐมนตรี"ริชี ซูนัก" (Rishi Sunak) ของอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลของตนกำลังทำงานเพื่อจำกัดความเสียหายของบริษัทต่าง ๆ จากการล้มของธนาคารดังกล่าว
โดยในช่วงวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมามีรายงานว่านายโนเอล ควินน์ ซีอีโอของธนาคาร เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ (HSBC) ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า HSBC UK Bank ธนาคารสาขาอังกฤษ ในเครือ HSBC ตกลงซื้อ SVB U.K. กิจการสาขาอังกฤษในเครือของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ ธนาคารของสหรัฐฯ ในราคา 1 ปอนด์ หลังปิดกิจการเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินและหนี้สินจากบริษัทแม่ในสหรัฐฯ ของธนาคาร SVB U.K. ไม่รวมอยู่ในสัญญาซื้อขายในครั้งนี้
นายโนเอล ควินน์ ระบุในแถลงการณ์ว่า การเข้าซื้อกิจการ SVB U.K. จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับแฟรนไชส์กิจการธนาคารของ HSBC อีกทั้งเสริมความสามารถในการให้บริการแก่บริษัทด้านนวัตกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจเทคโนโลยีและชีววิทยา ทั้งในอังกฤษและระหว่างประเทศ
แถลงการณ์ระบุว่า การซื้อกิจการ SVB U.K. ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลาง และกระทรวงคลังอังกฤษ เพื่อช่วยคุ้มครองเงินฝากของลูกค้าของธนาคาร SVB U.K.ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยอาศัยอำนาจกฎหมายกิจการธนาคารของอังกฤษปี ค.ศ.2009
ด้านนายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ย้ำว่า ข้อตกลงการซื้อกิจการ SVB U.K. โดย HSBC UK Bank เพื่อให้แน่ใจว่าเงินฝากของลูกค้าของธนาคาร SVB U.K.จะมีความปลอดภัย ทั้งช่วยให้ธนาคาร SVB U.K. สามารถให้บริการธุรกิจธนาคารได้ตามปกติ โดยไม่ต้องนำเงินภาษีอากรของประชาชนมาอุ้มกิจการธนาคาร อีกทั้งกิจการเทคโนโลยีของอังกฤษเป็นกิจการชั้นแนวหน้าของโลกและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอังกฤษ มีการจ้างงานหลายแสนตำแหน่งในอังกฤษ
นายฮันท์ กล่าวว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรและธนาคารกลางแห่งสหราชอาณาจักรทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อลดผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับธนาคารสาขาอังกฤษของ SVB
ด้านธนาคารกลางแห่งอังกฤษ ระบุว่า ไม่มีธนาคารอื่นใดเสียหายโดยตรงจากการซื้อกิจการ SVB U.K. โดย HSBC หรือจากมติใดๆของบริษัทแม่ในสหรัฐฯของ SVB U.K. พร้อมกล่าวถึงภาพรวมกิจการธนาคารในอังกฤษยังคงมั่นคงและแข็งแรงในด้านเงินทุน อีกด้านหนึ่งที่ดำเนินการควบคู่กันไปคือ หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของสหรัฐฯ อนุมัติแผนคุ้มครองเงินฝากและสถาบันการเงินต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ SVB หรือบริษัทแม่ในสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน