เผยความคืบหน้าคดีจัดซื้อ GT200- Alpha6 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ล่าสุด คณะทำงานฝ่ายอัยการเห็นควรสั่งฟ้องจนท. ยกเว้น 'คุณหญิงพรทิพย์' อ้างหลักฐานค่อนข้างห่างตัว ป.ป.ช. สรุปความเห็นชงที่ประชุมชุดใหญ่ ลุ้น เห็นด้วย หรือฟ้องเอง
แหล่งข่าวจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและสารเสพติด GT200 และ Alpha6 ว่า ภายหลังจากที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติชี้มูลความผิดการจัดซื้อเครื่อง GT200 และ Alpha6 ของหลายหน่วยงาน และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายไปแล้วนั้น
ในส่วนสำนวนการจัดซื้อของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 สัญญา ซึ่งปรากฎชื่อแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. ในฐานะอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ถูกชี้มูลการกระทำความผิดทางอาญา ที่ปรากฏข่าวก่อนหน้านี้ว่า อัยการสูงสุด ได้ตั้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนการสอบสวนทำให้ต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.และอัยการ เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปอีกครั้ง
ล่าสุด คณะทำงานฝ่ายอัยการ พิจารณาแล้วเห็นควรสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยกเว้นแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โดยอ้างว่า หลักฐานค่อนข้างห่างตัวแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์
เบื้องต้น คณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช. ได้สรุปความเห็นเพื่อเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีนี้แล้ว และมีการบรรจุระเบียบวระเพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณว่า เห็นด้วยกับความเห็นอัยการหรือไม่
“ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยืนยันความเห็นว่า ควรฟ้องคุณหญิงพรทิพย์ อาจจะทำให้อัยการสูงสุด ส่งเรื่องกลับ ให้ ป.ป.ช. ฟ้องคดีนี้เอง” แหล่งข่าว ป.ป.ช.ระบุ
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวนคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและสารเสพติด GT200 และ Alpha6 นั้น สำนักข่าวอิศรา เคยนำเสนอไปแล้วว่า ในช่วงเดือน กรกฎาคม 2564 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดคดีเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเครื่อง GT200 และ Alpha 6 รวม 20 สำนวน จากการไต่สวนทั้งหมด 25 สำนวน มีผู้ถูกกล่าวหาประมาณ 100 ราย ไปแล้ว และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย
โดย อัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว จำนวน 15 คดี คือ การจัดซื้อในส่วนของ กรมสรรพาวุธทหารบก , ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย,กองกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ,อำเภอเมืองนครปฐม ,กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ, จังหวัดสมุทรสงคราม , สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี , สำนักงานจังหวัดยะลา,ที่ทำการปกครองจังหวัดภูเก็ต,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สุโขทัย,กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด,สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ,จังหวัดระนอง, สถานีตำรวจภูธรชัยนาท และ กรมศุลกากร
ส่วนที่เหลืออีก 5 คดี นั้น มี 3 สำนวน คือ การจัดซื้อของ กรมการปกครอง กองทัพอากาศ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้น อัยการสูงสุด ได้ตั้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนการสอบสวนทำให้ต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.และอัยการ เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปอีกครั้ง
อีก 2 คดี คือ การจัดซื้อของสำนักงานจังหวัดเพชรบุรี และ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี อยู่ระหว่างขอความเห็นจาก อสส.
ภาพปกข่าวจาก https://www.thairath.co.th/entertain/2413805
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง