สปสช.จับมือ สภาองค์กรของผู้บริโภค แก้ปัญหา 'บัตรทองถูกเรียกเก็บค่ารักษา' ขอสถานพยาบาลเก็บจาก สปสช.แทนจากผู้ป่วย แนะตั้งกลไกกลางดูแลเบิกจ่ายชดเชย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ สภาองค์กรของผู้บริโภค แก้ปัญหาประชาชนสิทธิบัตรทองถูกเรียกเก็บค่ารักษา ดูแลรักษาผู้ป่วยบัตรทอง 'หาก รพ. มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ย้ำให้เรียกเก็บจาก สปสซ. แทน ไม่ต้องเรียกเก็บจากผู้ป่วย'
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า จากข้อมูลการร้องเรียนด้านบริการสุขภาพที่ สอบ. ได้รับปี 2564 พบว่า เป็นการร้องเรียนกรณีของผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือ 'บัตรทอง 30 บาท' มากที่สุด จำนวน 686 กรณี หรือร้อยละ 38.58 จากเรื่องร้องทั้งหมด 1,778 กรณี
โดยมีกรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีสิทธิที่จะเรียกเก็บ หรือเรียกเก็บเกินกว่าอัตราที่กำหนด (Extra Biling) สาเหตุหนึ่งของปัญหาคือเกิดจากความไม่เข้าใจของหน่วยบริการ หรือเข้าใจไม่ตรงกัน
หรือมีข้อมูลไม่เพียงพอ รวมถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำให้มีการเรียกเก็บค่ารักษาเพิ่มเติมจากผู้ป่วย
เรื่องนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ต้องทำความเข้าใจกับหน่วยบริการว่า สิทธิประโยชน์ในระบบได้ครอบคลุมการรักษาผู้ป่วยเกือบทั้งหมดแล้ว ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข พ.ศ. 2565 พร้อมให้ความมั่นใจด้วยว่าหน่วยบริการจะสามารถส่งเรื่องเบิกจ่ายมายัง สปสช. ได้และจะได้รับการจ่ายชดเชย
ในกรณีที่หน่วยบริการมีข้อติดขัดและสงสัยในรายการเรียกเก็บค่าชดเชยค่าบริการ ขณะนี้ สปสช. อยู่ระหว่างจัดตั้งกลไกกลางที่เรียกว่า "Provider center" หรือศูนย์บริการสำหรับหน่วยบริการขึ้นมา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ สปสช. ทำหน้าที่คอยประสาน นับเป็นประโยชน์ทั้งกับหน่วยบริการและผู้ป่วยเอง แก้ไขปัญหานี้ให้กับระบบ นอกจากลดปัญหาการร้องเรียนแล้ว ยังทำให้ระบบคงหลักการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ยั่งยืน
"หากหน่วยบริการจะเก็บค่ารักษากับผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ขอให้ประสานกับทาง Provider centerของ สปสช.ก่อน" น.ส.สารี กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีสิทธิที่จะเรียกเก็บฯ เบื้องต้นต้องชี้แจงว่าตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 หน่วยบริการสามารถเรียกเก็บค่าบริการได้ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กำหนด ด้วยสิทธิประโยชน์ในระบบที่ถูกกำหนดอย่างครอบคลุม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระบบบริการได้
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าปัญหาการเรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีสิทธิเรียกเก็บฯ นี้ยังคงเกิดขึ้น ข้อมูลปี 2565 ได้จำแนกเรื่องร้องเรียนตาม 'กลุ่มประเภทบริการที่ถูกจัดเก็บ' ปรากฏว่า กรณีถูกเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลทั้งบิลใบเสร็จ มีจำนวนสูงสุด 282 เรื่อง รองลงมาเป็นค่าตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคโควิด-19 จำนวน 108 เรื่อง ค่ายานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ 46 เรื่อง ค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยา 34 เรื่อง ค่ายาในบัญชียาหลักแห่งชาติ 21 เรื่อง เป็นต้น
เมื่อจำแนกการร้องเรียนตาม 'กลุ่มที่เข้ารับบริการ' ปรากฏว่า เป็นกรณีถูกรียกก็บค่าบริการโรคระบบทางเดินหายใจมากที่สุด 221 เรื่อง รองลงมาเป็นบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 53 เรื่อง ตั้งครรภ์และการคลอด 37 เรื่อง โรคระบบประสาทและสมอง 32 เรื่อง โรคระบบย่อยอาหาร 32 เรื่อง เป็นต้น
นพ.จเด็จ กล่าวว่า คณะกรรมกาหลักประกัสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสซ.) รับทราบปัญหานี้ และมอบให้ สปสช. เร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ซึ่ง สปสช.ได้มีการขับเคลื่อน อาทิ จัดสิทธิประโยชน์บริการสุขภาพอย่างครอบคลุม ออกประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข พ.ศ. 2564 เป็นการปรับปรุงจากประกาศฉบับเดิม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในบริการ
สุขภาพ การจัดทำคู่มือ Extra Biling อะไรทำได้ ทำไม่ได้ เพื่อทำความเข้าใจกับหน่วยบริการ
นอกจากนี้ ได้จัดกลไกเพื่อให้เกิดหารือร่วมกันอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การมี Provider center หรือศูนย์บริการสำหรับหน่วยบริการเพื่อรับเรื่องจากหน่วยบริการ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างพัฒนาสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อรับเรื่องจากหน่วยบริการและประสานงานที่รวดเร็ว ซึ่งหากรายการบริการนั้นอยู่ในรายการที่ สปสช.จ่ายได้ หน่วยบริการก็จะได้สบายใจ ไม่ต้องเรียกเก็บจากผู้ป่วย เพราะ สปสช.จ่ายให้แน่นอน แต่หากไม่มีอยู่ในรายการ เป็นต้นว่าเป็นยาใหม่ ยาราคาแพง หรือเป็นเทคโนโลยีการรักษาใหม่ ก็จะมีกลไกหารือร่วมกันต่อไป
"ต้องขอความกรุณาหน่วยบริการว่า ขอให้ระวังการเรียกเก็บค่าบริการที่เกินกว่าที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบอร์ด สปสช.กำหนด โดยหากไม่แน่ใจขอให้หารือและเรียกเก็บมาที่ สปสช.แทน โดย สปสช.จะจ่ายให้ตามอัตราที่ตกลงร่วมกัน ซึ่งหน่วยบริการจะได้รับการจ่ายชดเชยค่าบริการตามที่ตกลง เราอยากให้ความมั่นใจกับสถานพยาบาลว่า วันนี้ สปสช.ไม่ได้โยนความรับผิดชอบไปให้ เราไม่ได้แค่บอกว่า ห้ามเก็บค่าบริการเพิ่มแล้วปล่อยให้ปัญหาผ่านไป แต่อยากจะจัดระบบเพื่อให้มีช่องทางในการพูดคุยว่าบริการไหนดีจริง และเรายังไม่ได้กำหนดการจ่ายให้ เราก็จะเข้าไปดูแลในส่วนนี้ให้ ซึ่งหากหน่วยบริการมีข้อสงสัยใด ขอให้สอบถามหรือติดต่อมาที่ สปสช. ก่อน ซึ่งเป็นไปตามแผนปฏิบัติราชการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 5 พ.ศ.2566 - 2570 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบของบอร์ด สปสช.แล้ว" นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ส่วนประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง หากถูกเรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม ก่อนที่จะชำระเงินสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือติดต่อผ่านไลน์ออฟฟิเชียลของ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso และทราฟฟี่ ฟองดูว์ (Traffy Fondue) ได้ในทันที ซึ่ง สปสช.จะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการเพื่อเจรจากับทางสถานพยาบาล