'มิน อ่อง หล่าย' รับปากกลางวันประกาศอิสรภาพ จะจัดเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม แต่ยังไม่เคาะว่าเมื่อไร ขอบคุณ จีน อินเดีย และไทย ให้ความร่วมมืออย่างดี ด้านรัสเซียส่งจดหมายพัฒนาความสัมพันธ์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับบรรยากาศวันประกาศอิศรภาพของเมียนมาเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมาว่าเผด็จการทหารเมียนมาได้สัญญาว่จะมีการจัดการเลือกตั้งยุติธรรมและเป็นเสรี โดยจะมีหลายพรรคการเมืองเข้าร่วมการเลือกตั้งในครั้งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลทหารของเมียนมาเพิ่งจะมีการสรุปการพิจารณาคดีแบบปิดกับนางอองซานซูจี ขณะที่ทางด้านของสหรัฐอเมริกาได้เคยวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้วว่าความพยายามจัดการเลือกตั้งของเผด็จการทหารดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการหลอกลวง
โดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้กล่าวในการสุนทรพจน์เนื่องในวันประกาศอิสรภาพครั้งที่ 75 ของเมียนมากับเหล่าบรรดาทหารและผู้สนับสนุนในกรุงเนปิดอว์ว่า “เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของสถานการณ์ฉุกเฉินการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมจะจัดขึ้นตามรัฐธรรมนูญปี 2551”
ทั้งนี้ตามเงื่อนไขของกฎหมายคำว่าสถานการณ์ฉุกเฉินที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้กำหนดขึ้นมานั้นจะหมดอายุลงในปลายเดือน ม.ค.นี้ และหลังจากนั้นรัฐธรรมนูญของเมียนมาระบุว่าทางการต้องกำหนดแผนให้มีการเลือกตั้งต่อไป ซึ่งการรัฐประหารในช่วงเดือน ก.พ. 2564 ที่ผ่านมาเป็นการรัฐประหารที่ไม่ได้มีการฉีดรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามหัวหน้าเผด็จการทหารไม่ได้มีการกำหนดช่วงเวลาว่าจะให้มีการเลือกตั้งเมื่อใด
ทางด้านของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย กล่าวต่อไปว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหารได้ประชุมกับพรรคการเมืองเพื่อหารือกับ "ระบบการเลือกตั้งตัวแทนตามสัดส่วน”
โดยนักวิเคราะห์ได้กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ว่าเผด็จการทหารนั้นอาจจะมีการยุบระบบแบ่งเขตคะแนนสูงสุดที่ใช้ในการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางซูจีได้รับเสียงข้างมากแบบถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2558 และในปี 2563
พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ยังได้กล่าวโทษประเทศอื่นๆที่เข้าแทรกแซงกิจการของประเทศเมียนมาและกล่าวของคุณประเทศที่ให้ความร่วมมือในเชิงบวกกับเมียนมา ซึ่งรวมไปถึงประเทศอย่างเช่นจีน อินเดีย และไทย
“ผมอยากจะขอบคุณประเทศต่างๆ,องค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคและบุคคลที่ให้ความร่วมมือในเชิงบวกกับเรา ท่ามกลางแรงกดดัน การวิพากษ์วิจารณ์ และการโจมตีทั้งหมดที่มีต่อเรา” พล.อ.มิน อ่อง หล่ายกล่าวผ่านโทรทัศน์และกล่าวต่อไปว่าเรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับจีน อินเดีย ไทย ลาว และบังกลาเทศ โดยเราจะทำงานร่วมกันในการสถานเสถียรภาพที่ชายแดนและเพื่อการพัฒนา
ทั้งนี้มีรายงานจากหนังสือพิมพ์ Global New Light of Myanmar ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของรัฐ ระบุด้วยว่าประธานาธิดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียยังได้ส่ง “คำทักทายอย่างจริงใจ” และคาดว่าจะ "การพัฒนาต่อไป" ของความสัมพันธ์ มาให้กับทางรัฐบาลทหารเมียนมาด้วย
ทั้งนี้รัสเซียถือว่าเป็นพันธมิตรและคู่ค้าอาวุธหนึ่งเดียวของรัฐบาลทหารเมียนมา ในขณะที่เมียนมาถูกคว่ำบาตร ในทางกลับกันทางเมียนมาก็ได้เคยระบุว่าการตัดสินใจรุกรานยูเครนของกรุงมอสโกนั้นชอบธรรมแล้ว
ทางด้านของสำนักข่าวเอเอฟพีก็รายงานเช่นกันว่าบรรยากาศในวันประกาศอิสรภาพนั้นมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเห็นได้ชัดในย่านการค้าในนครย่างกุ้ง ซึ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
เรียบเรียงจาก:https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/myanmar-junta-marks-independence-day-with-show-of-force