เมียนมาจับขบวนการค้ามนุษย์ 12 รายเอี่ยวขนย้ายชาวโรฮิงญากว่า 255 รายผ่านบังกลาเทศ ไปยังประเทศไทย ปลายทางสู่มาเลเซีย พบกลวิธีให้หลบซ่อนในรถบรรทุกน้ำมันเดินทางกว่า 3,000 กิโลเมตร ส่งผลให้มีชาวโรฮิงญาเสียชีวิตกว่า 13 ศพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าที่ประเทศเมียนมา หน่วยงานภายใต้รัฐบาลทหารเมียนมาได้จับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนย้ายชาวโรฮิงญาโดยผิดกฎหมายทั่วประเทศเพื่อเดินทางไปยังมาเลเซียจำนวน 12 ราย ซึ่งผู้ต้องหาดังกล่าวนี้พบว่ามีส่วนกับการเสียชีวิตของชาวโรฮิงญาจำนวน 13 ศพ จากการหายใจไม่ออกเนื่องจากต้องหลบซ่อนอยู่ในรถบรรทุกน้ำมัน
โดยหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลที่ชื่อว่า Mirror Daily รายงานเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. กล่าวหาว่าขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวมีส่วนในการลักลอบขนย้ายชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 255 คน จากบังกลาเทศทางตอนใต้ไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งขนย้ายด้วยทางถนนเป็นระยะทางกว่า 3,000 กิโลเมตร
รายงานข่าวระบุต่อด้วยว่ากองกำลังความมั่นคงของเมียนมาได้จับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์ในช่วงวันที่ 9 และวันที่ 16 ธ.ค. และสามารถยึดรถได้เป็นจำนวนหกคันรวมไปถึงรถบรรทุกน้ำมันที่ใช้ในปฏิบัติการค้ามนุษย์ และชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 31 คนที่รอการขนย้ายไปยังประเทศมาเลเซียก็ถูกจับกุมในช่วงสองสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากกว่า 700,000 คน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกของรัฐยะไข่ต้องหนีไปยังค่ายผู้ลี้ภัยจำนวนหลายแห่งในบังกลาเทศ หลังจากที่รัฐบาลเมียนมาได้ดำเนินปฏิบัติการต่อต้านความไม่สงบที่มีลักษณะอันโหดร้ายในปี 2560 เพื่อตอบโต้กับการโจมตีของกลุ่มกบฏชาวโรฮิงญา
โดยสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากในค่ายผู้ลี้ภัยบังกลาเทศส่งผลทำให้กลุ่มชาวโรฮิงญาพยายามหลบหนีไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซีย ทั้งจากทางทะเลผ่านเรือเล็ก และก็มีส่วนที่พยายามเดินทางด้วยทางบกผ่านทางถนน โดยกลุ่มผู้ค้ามนุษย์จะพาชาวโรฮิงญาเดินทางไปยังย่างกุ้ง หลังจากนั้นก็เดินทางต่อเข้าประเทศไทย และสุดท้ายก็เดินทางไปยังมาเลเซีย ซึ่งแม้ว่าในที่สุดแล้วพวกเขาอาจจะถูกกักตัวในประเทศมาเลเซียก็ตาม
ตามรายงานในหนังสือพิมพ์ระบุว่ากลุ่มค้ามนุษย์นั้นต้องสงสัยว่าได้ดำเนินปฏิบัติการมาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง เพื่อที่จะพาชาวโรฮิงญาเดินทางจากรัฐยะไข่ไปยังย่างกุ้ง โดยชาวโรฮิงญาแต่ละคนนั้นจะถูกคิดเงินอยู่ที่รายละ 700,000 จ๊าต (11,605.02 บาท) เพื่อเดินทางจากซิตตเวไปยังย่างกุ้ง โดยเมื่อถึงย่างกุ้งแล้วก็จะมีนายหน้าอีกคนดำเนินการคิดเงินอีกทอดหนึ่งเพื่อจะพาพวกเขาเดินทางต่อไปยังพรมแดนประเทศไทย
โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. สื่อท้องถิ่นรายงานข่าวว่าพบผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ศพเชื่อกันว่าเป็นชาวโรฮิงญาถูกทิ้งอยู่ใกล้กับขยะข้างถนนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือเมืองย่างกุ้งเป็นระยะทาง 24 กิโลเมตร และต่อมาในรายงานข่าววันที่ 21 ธ.ค. ก็ระบุว่าผู้เสียชีวิตจำนวน 13 รายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชาวโรฮิงญาชุดสุดท้ายจำนวนกว่า 33 ราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มชาวโรฮิงญากลุ่มใหญ่จำนวน 255 ราย ที่ถูกเคลื่อนย้ายโดยขบวนการค้ามนุษย์ไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 33 รายที่ว่ามานี้จะถูกบรรทุกในแต่ละส่วนที่แตกต่างกันของรถบรรทุกน้ำมันจากเมืองซิตตเวเดินทางมายังเมืองงาเป้ในวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในกระบวนการขนย้ายจะมีการเปิดฝาครอบระบายอากาศของรถบรรทุกน้ำมันเอาไว้เพื่อรับอากาศ แต่ว่าฝานี้จะถูกปิดเมื่อต้องผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตามชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 13 ศพที่เสียชีวิตในด้านหลังของรถบรรทุกน้ำมันนั้นพบว่าเสียชีวิตเมื่อมาถึงย่างกุ้งทำให้ขบวนการค้ามนุษย์นำศพของพวกเขาไปทิ้งในพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว
เรียบเรียงจาก:https://borneobulletin.com.bn/authorities-arrest-alleged-traffickers-of-rohingya/