‘ก.ล.ต.’ ขอให้ ‘อัยการ’ ฟ้อง ‘หมอบุญ วนาสิน’ เรียกค่าปรับ 2.3 ล้าน ห้ามเป็นผู้บริหาร-กรรมการ บจ. 42 เดือน คดีเผยแพร่ข้อมูลนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ทำนักลงทุนสำคัญผิด หลังไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งฯ
...........................
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้พนักงานอัยการฟ้องนายแพทย์บุญ วนาสิน (นายแพทย์บุญ) อดีตประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG) กรณีเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือข้อมูลอื่นใดของ THG ในลักษณะมีผลกระทบต่อราคาหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น THG ต่อศาลแพ่ง
โดยขอให้ศาลฯกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง เรียกให้ชำระเงินรวม 2,348,834 บาท พร้อมดอกเบี้ย กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร พร้อมรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อ
ก.ล.ต. ระบุว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด รายนายแพทย์บุญ โดยกำหนดให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด คิดเป็นเงินรวม 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นระยะเวลา 42 เดือน
แต่เนื่องจากนายแพทย์บุญไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่า นายแพทย์บุญไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต.
ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีนายแพทย์บุญต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยให้ชำระเงินรวมทั้งสิ้น 2,348,834 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งกำหนดห้ามนายแพทย์บุญซื้อขายหลักทรัพย์หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และกำหนดห้ามนายแพทย์บุญเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อ ปปง. เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่ออีกด้วย
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ค.ม.พ. มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายแพทย์บุญโดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ คือ 2,000,000 บาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินจำนวน 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน
เนื่องจากปรากฏข่าวการให้ข้อมูลของนายแพทย์บุญ ตามสื่อหลายแหล่งว่า THG จะลงนามในสัญญาซื้อขายและนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer โดยจะรับมอบวัคซีนล็อตแรกจำนวน 5 ล้านโดสภายในเดือนกรกฎาคม 2564 และได้มีผู้ขอให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบการให้ข่าวที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมายในกรณีดังกล่าว
รวมทั้ง ก.ล.ต. ได้รับการแจ้งเหตุสงสัยจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า นายแพทย์บุญอาจบอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญที่อาจทำให้มีผลกระทบต่อราคาหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น THG อันอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ)
จากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายแพทย์บุญซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจของ THG ได้บอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความต่อสื่อหลายแห่ง ทั้งสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ที่ประชาชนสามารถรับข่าวสารได้ในวงกว้างว่า THG จะลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อนำเข้าวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer และจะรับมอบวัคซีนดังกล่าวจำนวน 5 ล้านโดสแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2564
แต่ไม่ปรากฏว่า THG ได้มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนภายในเดือนดังกล่าวจริง และช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 นายแพทย์บุญยังคงยืนยันการนำเข้าวัคซีนดังกล่าวได้ภายในเดือนสิงหาคม 2564 แต่ต่อมานายแพทย์บุญได้ยอมรับผ่านทางสื่อว่า ไม่สามารถนำเข้าวัคซีนดังกล่าวตามที่เคยให้ข่าวไว้ได้แล้ว
ข้อความที่นายแพทย์บุญเผยแพร่ดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนและผู้ลงทุนเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือข้อมูลอื่นใดของ THG ที่น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อราคาหรือต่อการตัดสินใจลงทุนใน THG การกระทำของนายแพทย์บุญเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคสอง และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ
อ่านประกอบ :
‘ก.ล.ต.’สั่งปรับ‘อุไรวรรณ-ธีรพล’ 8.6 ล้าน ปั่นหุ้น MBAX-ห้ามเป็นผู้บริหาร-กรรมการ บจ.
มีความเสี่ยงหลายด้าน! ‘ก.ล.ต.’ เตือนประชาชนระมัดระวังลงทุน ‘เหมืองขุดคริปโทฯ’
ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘Zipmex-เอกลาภ’ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ไม่ส่งข้อมูล‘กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์’
'ก.ล.ต.' สั่งปรับผู้บริหาร 'บิทคับ บล็อคเชน' 8.5 ล้าน ใช้ข้อมูลภายในซื้อเหรียญ 'KUB'
แพร่ข้อมูลทำนักลงทุนเข้าใจผิด! ก.ล.ต.ปรับ‘หมอบุญ’ 2.3 ล.-ห้ามนั่ง‘กก.-ผู้บริหาร’บจ.42 ด.
'ก.ล.ต.' สั่งปรับ ‘สิทธิลาภ ทรัพย์สาคร’ 12.5 ล้าน ใช้ข้อมูลภายในขายหุ้น TASCO