เทศบาลลำภูราตรัง งานเข้า! เจอคดี จนท.ระดับสูงแอบเขียนเช็คตั้งฎีกาเบิกเงินเวียนซ้ำหลายล้าน เผยทำมาหลายปีแล้ว แต่เรื่องเพิ่งแดงช่วงมีนายกฯ ใหม่ สะพัดเจ้าตัวขาดราชการไปหลายเดือนแล้ว หลายหน่วยงานสั่งเร่งสอบสวน
เทศบาลตำบลลำภูรา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กำลังมีการตรวจสอบสวนปัญหาทุจริตการเบิกจ่ายเงินเทศบาลฯ ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่ง ในลักษณะการเพิ่มจำนวนเงินหน้าเช็ค เขียนเช็คโดยไม่ขีดฆ่า หรือผู้ถือ แอคเคาท์ เปย์ยี่ โอลี่ (Account Payee Only) ในเช็คเพื่อที่จะนำเงินเข้าบัญชีผู้ทุจริตโดยตรง และมีการนำฎีกาเบิกเงินกลับมาเวียนซ้ำ ซึ่งเป็นการไม่ปฎิบัติตามระเบียบราชการ โดยการนำเงินออกไปแต่ละครั้งจะนำออกไปครั้งละประมาณ 2-5 แสนบาท นับรวมยอดตั้งแต่ปี 2561- 2565 รวมวงเงินหลายล้านบาท
ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อทีมข่าวพิเศษสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นายอนันต์ ทองอุ่น ท้องถิ่น จ.ตรัง ว่า ตามหนังสือจากเทศบาลที่ ตง. 53101/394 ลงวันที่ 9 ก.ย. 65 รายงานเข้ามาว่า ได้ตรวจสอบหลักฐานฎีกาเบิกเงิน และหลักฐานการจ่ายเงิน ของ เทศบาลตำบลลำภูรา พบว่ามีเหตุน่าสงสัยว่าจะมีปัญหาทางการเงิน และการทุจริตเกิดขึ้น และรายงานมาเพื่อที่จะขอตัว น.ส.นาถวดี คงเอี่ยม ผอ.กลุ่มงานการเงินบัญชีและการตรวจสอบ สำนักงานส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น จ.ตรัง เพื่อแต่งตั้งเป็นหนึ่งในกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องนี้มีไม่เพียงพอ โดยขณะนี้คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเทศบาลฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีเงินขาดบัญชีและสูญหายประมาณ 4-5 ล้านบาท ซึ่งยอดจริง ๆ ยังไม่มีข้อยุติ
@ นายอนันต์ ทองอุ่น
"ตอนนี้เจ้าตัว หรือผู้ที่กระทำความผิดได้ขาดราชการและขาดการติดต่อกันไปหลายวัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการการสอบสวนเพื่อไล่ออกจากราชการ เนื่องจากผิดวินัยร้ายแรงจากการขาดราชการ หลังจากนี้ทางท้องถิ่นจังหวัด หากมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะมีการดำเนินการทางละเมิด ทางอาญา และทางวินัย ทั้ง 3 ฐานความผิด กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบเกี่ยวกับเงินของทางราชการทั้งหมด ซึ่งในเรื่องนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบอยู่ด้วยเช่นกัน เบื้องต้นกรณีดังกล่าวคาดว่ามีการทุจริตตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 ถึง พ.ศ. 2565 หรือกว่า 5 ปีงบประมาณ ซึ่งเป็นฎีกาที่สลับซับซ้อนพอสมควรในการตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลา หลังจากทราบเรื่องก็ได้รายงานไปทาง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และกระทรวงมหาดไทย รับทราบเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
ขณะที่ น.ส.นาถวดี คงเอี่ยม ผอ.กลุ่มงานการเงินบัญชีและการตรวจสอบ สำนักงานส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น จ.ตรัง ให้ข้อมูลถึงพฤติการณ์การกระทำผิดของ เจ้าหน้าที่ระดับสูงเทศบาลตำบลลำภูรา ว่า มีการเขียนเช็ค ไม่ขีดฆ่า หรือผู้ถือ แอคเคาท์ เปย์ยี่ โอลี่ (Account Payee Only) ในเช็ค มีการเขียนเว้นระยะห่างในเช็ค เพื่อสามารถให้เติมตัวเลขข้างหน้าได้ และยังสามารถไปเติมตัวเลขหลังจากผู้มีอำนาจเซ็นเสร็จ ก็จะมาเติมตัวเลขเอาไปเบิกจ่ายในนามของตัวเอง และอีกอย่างก็ยังนำเอาฎีกาเบิกเงินต่างๆ กลับมาเวียนเพื่อเบิกอีกครั้งหนึ่ง โดยเบิกในจำนวนเงินที่น้อย ที่สามารถสั่งจ่ายได้เอง และนำฎีกาตัวนี้มาเติมจำนวนเงินในภายหลังอีก กลายเป็นว่านำฎีกามาเวียนเบิกจ่ายอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวยากต่อการตรวจสอบ เพราะของเทศบาลลำภูรา (ขณะนั้น) การควบคุมภายในไม่ดีด้วย เพราะคนที่ทุจริตเป็นคนทำบัญชี และทำบัญชีรวบรัดอยู่ในคนๆ เดียวกัน ซึ่งยากแก่การตรวจสอบ เพราะไม่ได้มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเดือน กันยายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้ของ เทศบาลตำบลลำภูรา ได้ออกมารับและสารภาพบอกกล่าวกับ นางสาวอนิสา วินสน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำภูรา คนปัจจุบัน หลังจาก นายรักชาติ เที่ยงธรรม อดีตนายเทศบาลตำบลลำภูรา (ขณะนั้น) ได้เสียชีวิตลงไป
ข่าวระบุว่าตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2561 ถึง พ.ศ. 2565 มีการนำเงินจากกองคลังเทศบาลฯ ไปจำนวนประมาณ 9 ล้านบาท (ยังไม่ทราบยอดแน่ชัด) แต่ได้มีการส่งคืนกลับไปบ้างแล้วในบางส่วนช่วงปี พ.ศ. 2561 ถึง พ.ศ. 2562 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบยอดว่าคืนกลับเข้าไปแล้วจำนวนเท่าไร แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเบื้องต้น เงินที่ขาดบัญชีอยู่ที่ประมาณ 4 – 5 ล้านบาท (ยังไม่สรุป) และยังมีเงินจำนวนหนึ่งที่ยังไม่สามารถระบุที่มาที่ไปได้ถึงการเข้าออกของจำนวนเงินดังกล่าว พฤติการณ์คือเพิ่มจำนวนเงินหน้าเช็ค เขียนเช็คโดยไม่ขีดฆ่า หรือผู้ถือ แอคเคาท์ เปย์ยี่ โอลี่ (Account Payee Only) ในเช็คเพื่อที่จะนำเงินเข้าบัญชีผู้ทุจริตโดยตรง และมีการนำฎีกาเบิกเงินกลับมาเวียนซ้ำ ภาพรวมคือไม่ได้ปฎิบัติตามระเบียบราชการ โดยการนำเงินออกไปแต่ละครั้งจะนำออกไปครั้งละประมาณ 2-5 แสนบาท
เบื้องต้น ทางเทศบาลฯ อยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นนายกฯ จึงสามารถตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเองได้ตามระเบียบ และทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำจังหวัดตรัง (สตง.ตรัง) ก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่มีข้อสรุปและเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งเบื้องต้นหากทาง สตง. มีการทำรายงานเสร็จสิ้นแล้ว จะรายงานส่งไปให้ สตง.ภาค ดำเนินการต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.ผจญ เนียมรินทร์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ห้วยยอด เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า หลังจากเกิดเรื่องทางนายกฯ (ปัจจุบัน) ได้มีการมอบอำนาจให้ทางปลักเทศบาลฯ เดินทางเข้าแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้มีการตรวจสอบยอดเงินที่สูญหายอย่างแน่ชัดก่อน แล้วค่อยดำเนินการเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญา
ขณะที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้พยายามขอข้อมูลและสัมภาษณ์ น.ส.อนิสา วินสน นายกเทศมนตรีตำบลลำภูรา (ปัจจุบัน) แต่กลับได้รับการปฏิเสธในการให้ข้อมูลหรือสัมภาษณ์ในเรื่องนี้