ป.ป.ช.รับลูกชมรม STRONG สอบ อบจ.สมุทรปราการ เหตุโครงการป่าชายเลน-โกงกางเทียม 1.4 พันล. ส่งมอบ 2 ปี ไม่ยอมติดตั้ง หลังถูกร้องไม่ยอมทำ อ้างติดข้อ กม.กับกรมเจ้าท่า-ขณะผลการลงพื้นที่พบวัสดุทำประการังเทียมทิ้งร้างเพียบ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา นายบดินทร์ กรีธาธร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสมุทรปราการได้ร่วมกันลงพื้นที่ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ กับชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดสมุทรปราการ
โดยการลงพื้นที่เกิดขึ้นหลังจากชมรม STRONG ได้รับเรื่อง“โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการโดยใช้นวัตกรรมโกงกางเทียมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ” ไม่ได้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไม่มีการขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่มีการนำโกงกางเทียมไปติดตั้งตามที่ระบุไว้ในสัญญา ตลอดจนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโกงกางเทียมด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากถูกปลดจากบัญชีนวัตกรรมแล้ว
ทั้งนี้จากการสอบถามข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ อบจ.สมุทรปราการได้ชี้แจงถึงสภาพปัญหาที่นำมาสู่โครงการดังกล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอบางบ่อ บางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ ถึงอำเภอพระสมุทรเจดีย์ มีการกัดเซาะชายฝั่งมากกว่า 50 เมตร ในระยะเวลา 10 ปี ดังเห็นได้จากวัดขุนสมุทรจีนที่มีการกัดเซาะชายฝั่งเข้าไปจนลึกมาก ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะแกไขปัญหาแต่ยังพบว่าปัญหายังคงมีอยู่และมากขึ้น มีการนำเขื่อนไม้ไผ่มาปักแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ประกอบกับมีหน่วยงานร้องขอมาที่ อบจ.สมุทรปราการให้แก้ไข
โดย อบจ.สมุทรปราการ ได้ศึกษาผลงานวิจัยพบว่าการปลูกต้นไม้จริง ยังคงเกิดปัญหาคลื่นซัดชายฝั่งเนื่องจากต้นไม้ที่ปลูกในระยะแรกยังไม่หยั่งรากลึกจะเจอกับปัญหารากลอยและเป็นปัญหาซ้ำซาก การใช้ไม้ไผ่ปักไม่ก่อให้เกิดตะกอนดินที่จะเกิดเป็นพื้นดินได้ โดยโกงกางเทียมซึ่งทำจากยางสังเคราะห์ มีความทนทานต่อการกัดเซาะ สามารถดักตะกอนดินและเพิ่มพื้นดินได้ เมื่อเพิ่มพื้นดินแล้วจะมีการขยายไปปักในจุดอื่น ๆ ที่พบปัญหาต่อไป
สำหรับประเด็นที่มีการร้องเรียนดังกล่าว อบจ.สมุทรปราการ ได้ชี้แจงรายละเอียดดังนี้
1. การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อบจ.สมุทรปราการได้ชี้แจงว่า ได้มีหนังสือหารือไปที่สำนักนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องการจัดทำ EIA โดยสำนักนโยบายฯ ได้มีความเห็นว่าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการโดยใช้นวัตกรรมโกงกางเทียมนั้น ไม่ใช่โครงการในลักษณะการก่อสร้างเขื่อนจึงไม่ต้องทำการศึกษา EIA ซึ่งการจัดทำ EIA จะมีข้อกำหนดที่แน่ชัดว่าโครงการลักษณะใด ขนาดใดบ้างที่ต้องจัดทำ EIA
2. การขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อบจ.สมุทรปราการได้ชี้แจงว่า จุดเริ่มแรกที่ อบจ.สมุทรปราการ วางแผนดำเนินการปักโกงกางเทียมคือบริเวณสถานตากอากาศบางปู โดยได้จัดทำหนังสือขออนุญาตไปยังกรมพลาธิการทหารบกเพื่อขออนุญาตจัดวางโกงกางเทียม ซึ่งกรมพลาธิการทหารบกได้มีหนังสือตอบอนุญาตให้ อบจ.สมุทรปราการ สามารถดำเนินการได้ และได้มีหนังสือไปยังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขออนุญาตและขอให้ตรวจสอบว่าพื้นที่ที่มีการติดตั้งโกงกางเทียมเป็นพื้นที่ป่าชายเลนหรือไม่
โดยกรมทรัพยากรฯ ได้มีความเห็นว่าพื้นที่ที่มีการติดตั้งโกงกางเทียมไม่ใช่พื้นที่ป่าชายเลน อบจ.สมุทรปราการสามารถดำเนินการได้ สำหรับกรมเจ้าท่านั้นทาง อบจ.สมุทรปราการ ได้มีหนังสือขออนุญาตด้วยเช่นกัน แต่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากมีการพิจารณาในประเด็นเรื่องข้อกฎหมายการติดตั้งว่า จะส่งผลกระทบอย่างไร ซึ่งยังไม่ได้สามารถนำไปติดตั้งได้
3. การเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่มีการนำโกงกางเทียมไปติดตั้งตามที่ระบุไว้ในสัญญา อบจ.สมุทรปราการได้ชี้แจงว่า การจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นการส่งมอบพัสดุโกงกางเทียมตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญา งบประมาณทั้งสิ้น 1,045,000,000 บาท มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้ว 66% หรือประมาณ 600 กว่าล้านบาท ยังเหลืออีกประมาณ 351,000,000 บาท ที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายเนื่องจากผู้รับจ้างยังส่งมอบพัสดุไม่ครบถ้วนตามสัญญา ราคาที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง คือ 14,750 บาท/ชุด และส่วนที่ 2 คือ เป็นส่วนที่ให้ผู้รับจ้างดำเนินการปักเสาโกงกางเทียมในพื้นที่ที่กำหนดในสัญญา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเบิกจ่ายเนื่องจากยังไม่ได้ดำเนินการติดตั้งเนื่องจากรอการอนุญาตจากกรมเจ้าท่า
4. กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโกงกางเทียมด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากถูกปลดจากบัญชีนวัตกรรมแล้วนั้น อบจ.สมุทรปราการได้ชี้แจงว่า อบจ.สมุทรปราการ มีการจัดซื้อจัดจ้างใช้วิธีเฉพาะเจาะจงตามระเบียบกระทรวงการคลัง สำหรับการขึ้นบัญชีนวัตกรรมนั้นไม้โกงกางเทียมได้มีการประกาศเป็นนวัตกรรมและขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยปี พ.ศ. 2560-2564 และมีการต่ออายุบัญชีนวัตกรรมไทยเป็นปี พ.ศ. 2564-2568 โดยบริษัท อาร์โต้ เอ็นจิเนียร์ จำกัด เป็นบริษัทยื่นขอจดบัญชีนวัตกรรมไทยเพียงรายเดียว ซึ่งรหัสนวัตกรรม คือ 01010006 ทั้งนี้ พัสดุโกงกางเทียมที่ได้รับมอบมาแล้วนั้น ถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานที่ของเอกชนบริเวณฝั่งตรงข้ามวัดราษฎร์บำรุง ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยผู้รับจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากนั้นนายบดินทร์ พร้อม เจ้าหน้าที่ อบจ. สมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดจัดเก็บ ปะการังเทียม ที่ ถนนสุขุมวิท ย่านตำบลบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังได้รับข้อมูลการร้องเรียน พบวัสดุพลาสติกสีดำที่ใช้ทำปะการังเทียมกองอยู่จำนวนมาก อยู่ในเต็นท์และนอกเต็นท์
โดยผลของการลงพื้นที่ทราบจากนายธาราดร สุธะ ผู้จัดการฝ่ายติดตั้งโครงการปะการังเทียม ของบริษัทเอกชนว่า เป็นสถานที่เก็บพาสติก เพื่อใช้ในการติตตั้งปะการังของ อบจ.ทางบริษัทได้เช่าพื้นที่เอกชนเป็นที่เก็บ ไว้ประมาณ 2 ปีเศษแล้ว แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง ทั้งนี้เพราะมีข้อติดขัดด้านสถานที่ ซึ่ง อบจ. ได้ดำเนินการขออนุญาตจากกรมเจ้าที่ และส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วขณะนี้