สตง.สอบพบปัญหาความล่าช้าโครงการจัดตั้งศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด ตามพระปณิธานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ 35 ไร่ ใน ม.วลัยลักษณ์ ชี้เหตุมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ก่อสร้างหลังลงนามสัญญา 7 วัน แถมมีความเสี่ยงไม่มีหน่วยงานบริหารจัดการหลังก่อสร้างเสร็จ จี้แก้ไขปัญหาด่วน
โครงการจัดตั้งศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้ประเด็นการพัฒนาสู่การเป็นเมืองสีเขียวและสังคมคุณภาพ ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนต่อเนื่อง ในช่วงปี 2563-2565 รวมวงเงินกว่า 180 ล้านบาท ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาความล่าช้าในการดำเนินงานโครงการฯ และอาจจะมีปัญหาความเสี่ยงไม่มีหน่วยงานบริหารจัดการหลังก่อสร้างเสร็จด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ สตง.ได้ตรวจสอบพบปัญหาการดำเนินงานโครงการจัดตั้งศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2565 จำนวน 64.63 ล้านบาท 57.90 ล้านบาท และ 57.84 ล้านบาท ตามลำดับ หน่วยงานดำเนินการก่อสร้างคือ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการสนับสนุนของจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีพื้นที่ก่อสร้างของโครงการประมาณ 35 ไร่ ภายในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
จากการตรวจสอบพบว่า การดำเนินงานโครงการยังไม่มีประสิทธิภาพ กล่าวคือ การก่อสร้างตามโครงการล่าช้ามีผลกระทบทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ต้องพับไป จำนวน 48.90ล้านบาทเพราะไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในระยะเวลาที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงเสนอขออนุมัติการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อนำไปชดเชยเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่ถูกพับไป และได้รับอนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยมีสาเหตุมาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ขอเปลี่ยนแปลงพื้นที่ก่อสร้างหลังจากลงนามในสัญญาจ้างไปแล้วเพียง 7 วัน ต่อมาเกิดการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากโครงการ จึงได้มีการจัดประชุมประชาคมเพื่อเสนอและคัดเลือกพื้นที่แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาความเหมาะสมของสถานที่ก่อสร้าง และจัดประชุมเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว และจัดทำมาตรการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่มีการนำคู่มือแนวทางการบริหารจัดการสถานสงเคราะห์สัตว์มาใช้โดยให้โครงการตั้งห่างจากบ้านเรือนประชาชนอย่างน้อย 400 เมตร มีมาตรการลดกลิ่นจากอุจจาระโดยการฝังกลบ ใช้เตาเผาซากสุนัข ลดมลพิษทางเสียงโดยสร้างกำแพงและปลูกต้นไม้รอบโครงการ และบำบัดน้ำเสียจากการล้างคอกโดยมีระบบถังบำบัดน้ำเสีย บ่อผึ่ง บ่อตาก และการเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อที่ผ่านการบำบัดแล้วของโครงการก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
นอกจากนี้ โครงการมีความเสี่ยงที่จะไม่มีหน่วยงานบริหารจัดการภายหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยมีสาเหตุมาจาก ก่อนร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่าง 4 หน่วยงานหลัก เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 นั้น ยังไม่มีการตกลงหรือหาข้อสรุปร่วมกันว่าหน่วยงานใดรับหน้าที่บริหารจัดการโครงการ และเมื่อโครงการมีปัญหาเรื่องสถานที่ก่อสร้างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเรื่องสถานที่ก่อสร้างและการบริหารงบประมาณ
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดทำโครงการตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ให้เกิดผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ป้องกันข้อผิดพลาด/ความเสี่ยงในลักษณะเดียวกันที่อาจเกิดขึ้นในโอกาสต่อไป และป้องกันมิให้เกิดการกระทำผิดวินัยการเงินการคลัง
สตง.มีข้อเสนอแนะให้กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ติดตามและสอบถามความคืบหน้าไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะหน่วยงานที่สนับสนุนขอรับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อขอทราบหน่วยงานผู้รับมอบสินทรัพย์และบริหารจัดการโครงการ ทั้งนี้ ในโอกาสต่อไปการพิจารณากลั่นกรองโครงการควรให้ความสำคัญถึงการบรรลุวัตถุประสงค์ตามโครงการอย่างรอบด้าน สถานที่ตั้งของโครงการต้องแน่ชัด หากเป็นโครงการที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ควรผ่านความเห็นชอบจากประชาชนผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ รวมทั้งมีหลักฐานบันทึกข้อตกลงของหน่วยงานที่จะรับมอบสินทรัพย์พร้อมแผนการบริหารจัดการโครงการที่ชัดเจน และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังการอนุมัติจัดสรรงบประมาณไปแล้ว