เผยข้อมูลคดีทุจริต-ร่ำรวยผิดปกติที่ไต่สวนข้อเท็จจริงเสร็จ รอเข้าชี้มูลในคณะกรรมการ ป.ป.ช.กว่า 550 เรื่อง มีเกือบ 100 คดี ‘ค้างท่อ’นานกว่า 1 ปี จนผู้ถูกกล่าวหาตาย - พ้นตำแหน่ง เผยเหตุพิจารณาได้เฉลี่ยวันละ 2-3 คดี ทำให้ล่าช้า
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ขณะนี้มีคดีทุจริตและคดีร่ำรวยผิดปกติที่สำนักไต่สวนและสำนักงาน ป.ป.ช.ภาคต่าง ๆ ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา แต่รอจัดเข้าระเบียบวาระหรือที่เรียกว่า "คดีค้างท่อ" (ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565) กว่า 550 เรื่อง
ในจำนวนนี้เป็นสำนวนที่ตั้งไต่สวนก่อนที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บังคับใช้และตั้งไต่สวนตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2561 (ไต่สวนครบ 3 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด) และส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 หรือประมาณ 1 ปีมาแล้วประมาณ 180 เรื่อง แต่ยังไม่ได้นำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการ
“เหตุที่มีเรื่องค้างท่อเป็นจำนวนกว่า 550 คดี เพราะการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำได้ช้ามาก โดยเฉลี่ยอย่างมาก 2-3 คดีต่อวัน ทำให้คดีที่พิจารณาเสร็จภายในกำหนด 3 ปี ตั้งแต่กฎหมายเก่ากว่า 100 คดี ค้างท่อมานานกว่า 1 ปีแล้ว จนกระทั่งผู้ถูกกล่าวหาหลายรายพ้นจากตำแหน่งบางคนเสียชีวิต บางคนยังอยู่ในตำแหน่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรืออาจทำให้ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีเพื่อให้คดีขาดอายุความ”แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ถ้าต้องการให้ ป.ป.ช.พิจารณาคดีได้เร็วขึ้น ต้องมีการปรับปรุงกระบวนการไต่สวนบางอย่าง เช่น การแจ้งข้อกล่าวหา การขอออกหมายจับ ซึ่งทุกวันนี้องค์อำนาจอยู่ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้นทุกเรื่องทุกขั้นตอนต้องนำกลับเข้ามาพิจารณาในคณะกรรมการหมด นอกจากนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช ยังทำหน้าที่ในการบริหารบุคคลด้วย ทำให้มีภารกิจมากจน ทำให้เวลาในการพิจารณาคดีน้อยลง
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ตั้งเป้าหมายให้พนักงานไต่สวนมีผลงานให้ไต่สวนคดีให้แล้วเสร็จ 3 คดีต่อคน/ปี ทั้งนี้ พนักงานไต่สวนมีประมาณ 750 คน ถ้าทำได้ตามเป้าหมาย จะมีเรื่องเสร็จ กว่า 2,200 คดี
"แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีศักยภาพในการพิจารณาได้ประมาณ 1,000 คดีต่อปี ซึ่งผลก็คือจะมีเรื่องค้างท่อเป็นจำนวนมากและเป็นเวลานาน อย่างที่เป็นปัญหาในทุกวันนี้" แหล่งข่าวระบุ