'อินเดีย'ออกคำเตือนพบโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.2.75.2 กลายพันธุ์จากโอไมครอน BA.2.75 ชี้หลบภูมิได้เก่งกว่าเดิม ชี้การกลายพันธุ์ยังคงอยู่ อาจต้องมีการผลิตวัคซีนรุ่นใหม่มากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19หรือโคโรนาไวรัสว่า ที่ประเทศอินเดีย หน่วยงานจัดลำดับทางพันธุกรรมของประเทศหรือที่เรียกกันว่า INSACOG ได้มีการออกประกาศเตือนว่าโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ซึ่งเป็นโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยที่ระบาดหนักที่สุดในอินเดียนั้นได้กลายพันธุ์และอาจจะมีศักยภาพในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้นไปอีกในอนาคต
โดย นพ.ราเจช คาร์ยาการ์เต ผู้ประสานงานของ INSACOG จากรัฐมหาราษฏระกล่าวยืนยันว่าสายพันธุ์ BA.2.75 ที่ว่ามานี้นั้นมีการกลายพันธุ์มากขึ้นไปอีก และเร็วๆนี้ นักภูมิคุ้มกันวิทยา ที่ทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีนก็ได้มีการทวีตข้อความระบุว่า BA.2.75.2 นั้นถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีศักยภาพในการหลบภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดเท่าที่มีการทดสอบมา โดยมีความเป็นไปได้ที่ว่ากำลังจะกลายเป็นสายพันธุ์ที่เหนือกว่าเพราะการกลายพันธุ์อันเกี่ยวกับการหลบภูมิคุ้มกันที่เพิ่มมากขึ้น
อนึ่งผู้เชี่ยวชาญได้มีการค้นพบโควิดสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวในอินเดียเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยรายงานที่ว่าโควิดสายพันธุ์ย่อยที่ว่ามานี้แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วกว่าโควิดโอไมครอนอื่นๆ โดยหลังจากที่ BA.2.75 ได้เกิดขึ้นมานั้นก็มีสายพันธุ์ย่อย BA.2.75.2 แพร่กระจายตามมาอีก ซึ่งสายพันธุ์ย่อยที่ว่านี้ถูกพบในแปดประเทศได้แก่ อินเดีย ชิลี อังกฤษ สิงคโปร์ สเปน และเยอรมนี
ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวต่อไปว่า BA.2.75.2 กำลังที่จะสร้างตัวเองในกลุ่มสายพันธุ์ย่อยโอไมครอน โดยสร้างการกลายพันธุ์ที่มากกว่า ซึ่ง ณ เวลานี้มีรายงานว่าจากการถอดรหัสพันธุกรรมในกลุ่มคนไข้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ในรัฐมหาราษฏระพบว่าเป็นผู้ป่วยสายพันธุ์ BA.2.75 และสายพันธุ์ย่อยที่เกี่ยวข้องแล้วทั้งหมด
นักวิทยาศาสตร์จาก INSACOG อีกรายหนึ่งได้กล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกนั้นกำลังติดตามโอไมครอน BA.2.75.2 เพราะว่า BA.2.75 นั้นเป็นสิ่งที่เข้ามาแทนที่ BA.4 และ BA.5 นี่จะทำให้ BA.2.75.2 มีความสามารถจะแพร่กระจายไปได้ไกลมากกว่าโควิดเหล่านี้
ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนยังได้ออกมาเตือนต่อไปว่าสายพันธุ์ย่อยต่างๆจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ตนทำให้วัคซีนที่มีนั้นมีศักยภาพที่ด้อยลงมาก และจำเป็นจะต้องมีการอัปเดต ซึ่งนี่อาจหมายถึงการต้องมีการผลิตวัคซีนรุ่นที่สองเพื่อจะจัดการกับทั้งตัวแปรใหม่ที่เกิดขึ้นต่างๆหรือว่าตัวแปรย่อย ซึ่งในอนาคตก็คาดกันว่าโควิดนั้นจะยังอยู่กับเราต่อไป เพราะมันมีการหลบภูมิได้ดีขึ้นทั้งจากการติดเชื้อก่อนหน้าและจากการฉีดวัคซีน