9 หน่วยงาน เผยความก้าวหน้า หลังลงนาม MOU ช่วยเหลือคนไทยที่ตกหล่นเข้าถึงหลักประกันทางสุขภาพมาแล้ว 2 ปี ในพื้นที่นำร่อง 7 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเตรียมขยายผล สร้างกลไก สู่ความยั่งยืนเชิงนโยบาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2565 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเวที 'ไม่มีใครต้องไร้สิทธิ' เผยความคืบหน้า หลังจากการลงนาม MoU ประสานความร่วมมือพัฒนาการเข้าถึงหลักประกันทางสุขภาพของคนไทยที่ตกหล่นจากสิทธิสถานะทางทะเบียน มา 2 ปี
โดยนำร่อง 7 จังหวัดครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ คือ กทม. ปราจีนบุรี ตราด อุบลราชธานี กาญจนบุรี สงขลา และสระบุรี ภายใต้ความร่วมมือของภาคประชาสังคม ภาครัฐ และภาควิชาการ ที่ครอบคลุมหน่วยงานตามบันทึกข้อตกลง และหน่วยงานที่เป็นภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ จากความร่วมมือ 9 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย
ผศ.ภก.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า บันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) นี้ เกิดขึ้นจากการผลักดันของหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาและลดอุปสรรคการเข้าถึงหลักประกันทางสุขภาพของคนไทยตกหล่น เป้าหมายสำคัญของเอ็มโอยูฉบับนี้คือการบูรณาการความร่วมมือดูแลประชาชนกลุ่มที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนโดยเฉพาะคนไทยตกหล่น หรือ 'คนไทยไร้สิทธิ' ให้เข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพมากยิ่งขึ้น
“ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทาง สปสช. วางยุทธศาสตร์ในการสร้างความครอบคลุมการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และได้จัดตั้ง “คณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงบริการระบบหลักประกันสุขภาพของกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะ” ขึ้นมา เพื่อเป็นกลไกในการประสานความร่วมมือและการขับเคลื่อนในประเด็นดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องและเห็นความสำคัญในการสร้างความครอบคลุมของการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ผศ.ภก.ดร.ยุพดี กล่าว
ทางด้าน นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า การสำรวจสถานการณ์คนไร้บ้านเชิงลึกใน กทม. และในเมืองใหญ่ของประเทศไทยช่วง ปี 2559 - 2560 ของ สสส. ร่วมกับ สปสช. มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่าย ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มสำคัญของการทำงานคนไทยไร้สิทธิ
จากการสำรวจฯ พบว่า คนไร้บ้านประมาณ 30% ในทุกพื้นที่มีปัญหาตกหล่นจากสิทธิสถานะ ส่งผลให้เข้าไม่ถึงหลักประกันทางสุขภาพ และสวัสดิการพื้นฐานพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี ต่อมามูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย พบว่า ชุมชนเมืองจำนวนหนึ่งมีกลุ่มคนไทยที่ตกหล่นจากสิทธิสถานะ เป็นข้อมูลที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าปัญหาด้านสิทธิสถานะหรือคนไทยตกหล่น ไม่ได้มีอยู่แต่ในพื้นที่เขตชนบทหรือพื้นที่ห่างไกลเท่านั้น หากแต่ชุมชนเมืองหรือใจกลางเมืองหลวงอย่าง กทม. ก็มีผู้คนที่ประสบปัญหาเช่นกัน จึงนำมาสู่การผลักดันข้อเสนอ ให้เข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพของคนไทยไร้สิทธิหรือคนไทยที่ตกหล่นจากสถานะทางทะเบียน และจัดตั้งคณะทำงานฯ ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเด็นการเข้าถึงหลักประกันทางสุขภาพของคนไทยไร้สิทธิ
“นอกจากนี้ กระบวนการดังกล่าวยังนำไปสู่การเกิดระบบสนับสนุน ช่วยเหลือ แก้ปัญหาให้ประชากรไร้สิทธิในด้านสิทธิสถานะอย่างบูรณาการระดับพื้นที่ เพื่อติดตามการพัฒนาสิทธิ เพื่อร่นระยะเวลาพิสูจน์สิทธิ ให้สามารถเข้าถึงหลักประกันทางสุขภาพเร็วขึ้น จากในอดีตใช้เวลา 10-20 ปี แต่เมื่อร่วมโครงการ สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ และได้เรียกการพิสูจน์สิทธิภายในระยะเวลา 3-12 เดือน ” นางภรณี กล่าว