‘บิ๊กโจ๊ก’ นำกำลังเปิดปฏิบัติการตรวจค้นเครือข่ายทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง 74 จุด 9 จังหวัด ยึดทรัพย์ได้กว่า 694.41 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมหมายค้นศาลอาญา นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 74 จุด 9 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, ตรัง, กระบี่, ประจวบคีรีขันธ์, จันทบุรี, ระยอง และกรุงเทพมหานคร เพื่อยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ต้องหาในคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้กว่า 694,441,500 บาท แบ่งเป็น 1.บัญชีผู้ต้องหา 37 บัญชี เงินคงเหลือในบัญชี 4,369,867.76 บาท 2.บ้านพร้อมที่ดิน 28 หลัง 3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 28 หลัง 4.ห้องชุด 6 ห้อง 5.โฉนดที่ดิน 13 แปลง 6. นส.3 ก. 11 แปลง 7.รีสอร์ต 1 แห่งใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 8.ตลาดสดนาโยง จ.ตรัง เนื้อที่ 6 ไร่ 9.ทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ ของผู้ต้องหา 6 ราย 10.รถยนต์ 19 คัน 11.รถจักรยานยนต์ 12 คัน และทรัพย์สินอื่นๆจำนวนหลายรายการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์จังหวัดพัทลุงได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยติดตามคดีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีตำรวจและครอบครัวที่เป็นสมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นมีรายงานความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท
- ตำรวจ บก.ป.รวบอดีต ผจก.สหกรณ์พัทลุง ใช้เอกสารปลอมเบิกเงิน เสียหาย 1.45 พัน ล.
- ให้ผู้เสียหายยื่นขอคุ้มครองสิทธิ! ปปง.ยึดทรัพย์อดีต ผจก.สหกรณ์ฯตร.พัทลุงแล้ว45รายการ
ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เร่งสืบสวนขยายผล และได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 293/2565 ลงวันที่ 22 มิ.ย.2565 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งดังกล่าว มีอำนาจในการสืบสวนคดีร่วมกันทุจริตดังกล่าว
จากการสืบสวนพบว่าช่วงปี พ.ศ.2563 หลังจากที่ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัดได้เปลี่ยนตัวผู้จัดการสหกรณ์และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ และตรวจสอบพบความผิดปกตทางบัญชี ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทุจริตของคณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกรวมหลายราย จึงได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจากการสอบสวนพยานบุคคล และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏพบกลุ่มผู้ต้องหา ประกอบไปด้วยคณะกรรมการดำเนินการ ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด และบุคคลภายนอก จำนวน 25 คน
โดยมีพฤติการณ์ในการร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำ และลงมือกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระต่างกัน เป็นเวลาต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี 2544 – 2563 โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดมากกว่า 10 วิธี เช่น การตกแต่งบัญชีของสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก การตกแต่งบัญชีลูกหนี้และลูกหนี้ที่ไม่มีตัวตน หรือตกแต่งบัญชีเกินความเป็นจริง การปลอมใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,577,836,978.14 บาท
ต่อมาช่วงระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.2565 ตำรวจร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 25 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ประกอบด้วย นางสาวสุภา อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 , นางสุพร อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 , นางสุชาดา อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 , นางสาวจุฑารัตน์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 , นางสาวนันทิยา อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาที่ 5
นางอัมพร อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาที่ 6 , นางพัชราภรณ์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ 7 , นางสาวสุกัญญา อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาที่ 8 , นางสาวปาณิศา อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 9 , นางสาวสุวนันท์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่ 10
นางสาวกชกร อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ 11 , นายไกรศิริ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาที่ 12 , พ.ต.ท.วิเชียร อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ 13 , ร.ต.ต.พันธ์ชัย อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาที่ 14 , ด.ต.ชุณฐกฤตม์ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาที่ 15
พ.ต.อ.ชำนาญ อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาที่ 16 , ร.ต.ท.อรุชา อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาที่ 17 , ร.ต.อ.ธนเวทย์ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ 18 , ด.ต.วิชา อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาที่ 19 , นางสารภี อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาที่ 20
นายศิรัฐโรจ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 21 , นางมณฑา อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาที่ 22 , นายวิเชียร อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ 23 , นางพรศรี อายุ 74 ปี ผู้ต้องหาที่ 24 , นางสาวพัชรา อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 25
โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม