'ญี่ปุ่น' เคาะ กลาง ต.ค. นี้ฉีดวัคซีนไบวาเลนต์ป้องกันโอไมครอน หลังก่อนหน้านี้พบคนกังวลรอฉีดวัคซีนรุ่นใหม่ ขณะยอดติดเชื้อญี่ปุ่นรายวันพุ่งอันดับหนึ่งของโลก ด้านไฟเซอร์แจงพร้อมส่งวัคซีนรุ่นใหม่หาก สธ.ญี่ปุ่นอนุมัติใบคำขอ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์โควิดในต่างประเทศว่าทางประเทศญี่ปุ่นได้มีการพิจารณาจะอนุมัติให้ฉีดวัคซีนชริดใหม่ที่จะเล็งเป้าไปที่โควิดสายพันธุ์โอไมครอน ให้กับประชากรทุกคนที่มีการฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อยสองโดส โดยจะฉีดให้ในช่วงกลางเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้
โดยรายงานข่าวระบุว่าวัคซีนที่จะฉีดให้นั้นจะเป็นวัคซีนประเภทไบวาเลนต์ (วัคซีนแบบหนึ่งโดสที่รวมวัคซีนสองชนิดไว้ด้วยกัน)อันประกอบไปด้วยวัคซีนป้องกันโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม และวัคซีนป้องกันโควิดสายพันธุ์ย่อยโอไมครอน BA.1 ซึ่งมีรายงานว่าวัคซีนดังกล่าวนั้นสามารถสร้างแอนติบอดีหรือว่าสารภูมิคุ้มกันได้ดีในการป้องกันโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ซึ่งในปัจจุบันนั้นพบว่าโควิดสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวได้มีการกระจายตัวอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับแผนฉีดวัคซีนดังกล่าวนั้นได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของกระทรวงสาธารณสุขแล้วในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นเผชิญกับการระบาดในระลอกที่เจ็ด ด้วยโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันนั้นพุ่งสู่ระดับสูงสุดไปอยู่ที่ 250,000 รายเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา และในปัจจุบันญี่ปุ่นก็มีอัตราการติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงที่สุดในโลก
ทั้งนี้การพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อทำให้รัฐบาลขยายขอบเขตผู้มีสิทธิ์รับวัคซีนในเข็มที่สี่จากผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หรือว่าผู้ที่มีอาการป่วยอื่นๆแทรกซ้อน กลายเป็นให้ครอบคลุมกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานในบ้านพักคนชราที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม จากการพบปะกับทีมผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีสมาชิกในทีมบางคนกังวลว่าหลายคนอาจจะเลือกที่จะชะลอการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นออกไปก่อนเพื่อจะให้มีวัคซีนตัวที่พัฒนาใหม่แล้วแทนที่จะฉีดวัคซีนที่มีอยู่
ทั้งนี้มาตรการว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดไปแล้วอย่างน้อยสองโดสนั้นจะสามารถเข้าไปรับวัคซีนรุ่นใหม่นี้ได้นั้น รัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
อนึ่งมีรายงานว่าบริษัทยาต่างๆนั้นกำลังเริ่มพัฒนาวัคซีนเพื่อจะให้รับมือกับโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การจะทำให้มีเวชภัณฑ์ที่มากพอที่จะจัดส่งได้นั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ส่งผลทำให้รัฐบาลเลือกที่จะจัดหาวัคซีนป้องกันโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 มาใช้
โดยถ้าหากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้มีการอนุมัติวัคซีนรุ่นใหม่ที่กำลังพัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอร์นาในสหรัฐอเมริกา ก็คาดว่าจะมีการจัดส่งวัคซีนได้ในช่วงเดือน ก.ย.
ขณะที่ทางด้านของบริษัทไฟเซอร์ก็ได้กล่าวว่าบริษัทนั้นได้มีการส่งใบคำขอการอนุมัติวัคซีนเพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไปแล้ว
สำหรับในส่วนของบริษัทโมเดอร์นานั้นก็คาดกันว่าอีกไม่นานนี้จะส่งใบคำร้องขอเช่นกัน
ขณะที่ในยุโรป มีรายงานว่าขั้นตอนการยื่นขออนุมัติวัคซีนไบวาเลนต์นั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาเรื่องการใช้วัคซีนไบวาเลนต์ และขณะนี้ก็กำลังมีการเตรียมการฉีดวัคซีนไบวาเลนต์ ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถเริ่มได้ในแต่ละประเทศในยุโรปในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (23 ก.ย.) ที่จะมาถึงนี้
ส่วนที่สหรัฐฯ ทางด้านของสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือว่า FDA ก็ได้มีการออกกคำแนะนำให้บริษัทยาเร่งพัฒนาวัคซีนต่างๆ โดยเฉพาะกับวัคซีนที่จะรับมือกับโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 โดยเร็ว
เรียบเรียงจาก:https://www.japantimes.co.jp/news/2022/08/08/national/japan-omicron-vaccine-eligibility/