‘พิธา’ ไม่ไว้ใจ ‘ประยุทธ์’ 8 ปีทำประชาชน 8 แปดด้าน สรุป 3 แกนตัวทำลายศักยภาพประเทศ ร่ายคุณสมบัติผู้นำคนต่อไป ต้องรอบรู้รอบด้าน ไม่เพ้อฝัน พร้อมดึงพลังคนรุ่นใหม่แม้จะเห็นต่างแต่พร้อมรับฟัง
เมื่อเวลา 09.30 น. เมื่อเวลา 15.38 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า การอภิปรายวันนี้ แตกต่างจากทุกครั้ง เพราะพรุ่งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของรัฐสภาที่จะตอกตะปู ปิดโอกาส ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดไปจากการเมืองไทย ในยามบ้านเมืองระส่ำระส่าย ข้าวยากหมากแพง ของแพง ค่าแรงถูก เรากลับมีผู้นำที่ไว้วางใจไม่ได้ เชื่อเหลือเกินว่า ถ้ายกเส้นแบ่งทางการเมืองฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลออก แล้วดูตามพยานหลักฐาน ดูการชี้แจงของรัฐบาล คิดกันด้วยมโนธรรมสำนึก ย้อนไปถึงสัญญาที่เคยเสนอให้กับประชาชนว่าไม่มีวันสืบทอดอำนาจให้กับรัฐบาลเผด็จการ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีทางรอด
นายพิธา กล่าวว่า ถ้ามองจาก 4 วันที่ผ่านมา พอสรุปได้เลยว่าพอกันทีกับ 8 ปีที่ทำให้คนไทยมืด 8 ด้าน ตอนนี้มืดไปแล้ว 3 ด้าน คือการแถลงไม่มีปี่มีขลุ่ย กับยุทธศาสตร์ 3 แกนแห่งอนาคต ฟังดูแล้วเหมือนเรื่องซ้ำๆ แผ่นเสียงตกร่อง เป็นนัยว่าขออีก 2 ปีให้ออกดอกผลเกิดผลสำเร็จ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าพวกเราเข้าใจผิด ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ต่ออีก 2 ปี
“ผมขอโทษนายกรัฐมนตรี ถ้าเกิดพวกผมเข้าใจผิด ถ้าอย่างนั้นนายกรัฐมนตรีพูดกันตรงๆ พูดกันชัดๆ ว่าท่านพอแล้วใช่ไหมครับอีก 2 ปีนี้จะไม่สืบทอดอำนาจ ไม่คิดถึงตัวท่านเอง คิดถึงประชาชนเป็นหลักถูกต้องหรือไม่” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวด้วยว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวก็เกิดสหบาทามาจากทุกที่ว่า 3 แกนนี่คือ 3 กลวง ไม่ว่าจะคนรวยที่สุดหรือลำบากที่สุดในไทย ทุกคนพูดเสียงเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีแถลงออกมา ท่านไม่รู้เรื่องว่ากำลังพูดอะไรอยู่ ไม่มีสาระ ไว้วางใจไม่ได้
แกนที่ 1 ย้อนแย้งของข้อมูลที่ใช้เวลาพูดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ท่านบอกว่าโครงการใกล้เสร็จแล้ว แต่ไปเช็คข้อมูลดูเร็วๆ ไม่ว่าจะเรื่องสัญญา 3 สนามบิน ประมูลมา 3 ปีความคืบหน้า 0% , รถไฟไทย-จีนสร้างมา 5 ปี คืบหน้า 4.6% , ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ทำมา 1 ปีคืบหน้า 5% ไม่เข้าใจคำว่าใกล้เสร็จของนายกรัฐมนตรีไปเอามาจากไหน เห็นชัดเจนเลยว่าเป็นความย้อนแย้ง และไม่เป็นความจริง
แกนที่ 2 คือความมั่วในอุตสาหกรรมอีวี นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะเดินนำหน้าทุกประเทศให้ไทยเป็นหนึ่งให้ได้ แต่ในวันเดียวกันที่นายกรัฐมนตรี เวียดนามมีบริษัทรถชื่อ Vinfast เขากู้เงินได้ 1.5 แสนล้านบาท เปิด 6 โชว์รูมในแคลิฟอร์เนีย และอีกไม่นานจะเปิดครบ 30 โชว์รูมทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนรถยนต์ NETA ที่บริษัท ปตท.ไปลงทุนไว้ แถลงว่าขอเลื่อนออกไปอีก 1 เดือนจากำหนดเดิม เพราะมีปัญหาในการผลิต ส่วนจีนทำเรื่องนี้มา 10 ปี เขาส่งออกรถแซงหน้าเราไปเรียบร้อยแล้ว
“ท่านนายกรัฐมนตรียังไม่ได้พูดว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เราเป็นสุสานรถสันดาป เพราะอีก 30% ไม่ว่าจะเครื่องยนต์ เกียร์ ท่อไอเสีย ถ้ารถอีวีเข้ามาในประเทศ ผมกังวลว่าจะเป็นความท้าทาย มากกว่าโอกาส” นายพิธา กล่าว
แกนที่ 3 การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ไม่ไว้วางใจไม่ได้ ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะท่านพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2557-2565 เพราะเมื่อแยกตามประเภทธุรกิจ พบว่าธุรกิจใหญ่โตขึ้น 12.8% แต่ธุรกิจเล็กถ้าไม่โดนซอฟต์โลนก็ติดลบ
นายพิธา กล่าวย้ำว่า สิ่งที่ไว้วางใจไม่ได้มากกว่า 3 แกน คือ ความห่างเหินกับประชาชน ในช่วงที่ค่าเงินเฟ้อสูงสุดที่สุดในรอบ 24 ปี ค่าเงินบาทอ่อนที่สุดในรอบ 16 ปี ช่วงที่ราคาปุ๋ยแพงที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา ช่วงที่หนี้สาธารณะสูงที่สุด ราคาอาหารสูงที่สุด นายกรัฐมนตรีคิดว่าสิ่งที่ทำให้ประชาชนนอนไม่หลับคือ เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน อีวี และการเงินการธนาคารหรือ แต่สิ่งที่ประชาชนอยากได้ยินคืออะไรคือทางออกของการแก้ปัญหาของแพง ค่าแรงถูก
นายพิธา กล่าวด้วยว่า หลังจากฟังคำชี้แจงนายกรัฐมนตรีตลอด 4 วันที่ผ่านมา ก็สรุปได้ว่านายกรัฐมนตรีมี 3 แกนที่เป็นแก่นแท้เหมือนกัน เพราะท่านคือเป็นตัวทำลาย
แกนที่ 1 ทำลายศักยภาพประเทศ เป็นที่ประจักษ์ว่าการไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เราใช้หนี้สาธารณะ 4 ล้านล้านบาท หนี้ภาคครัวเรือน 4 ล้านล้านบาท แต่ยังไม่ได้รับการตอบปัญหาประชาชน ไม่ว่าจะภาคการเกษตร พลังงาน หรือไฟฟ้า และขอให้ท่านเลิกได้แล้ว เวลาคิดอะไรไม่ออกแล้วโทษจำนำข้าว เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาใช้งบสุรุ่ยสุร่าย 2.5 แสนล้านบาทในการจำนำและประกันราคาสินค้าการเกษตร
และอีกสิ่งที่ทำลายศักยภาพประเทศคือเรื่องการทุจริต มีพิรุธ ไม่สามารถแสดงความสุจริตให้เป็นที่ประจักษ์ ยกตัวอย่างกรณี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องทุจริตในกองทัพ เกี่ยวกับการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ซึ่งภาพใน google earth เมื่อ ธ.ค.2563 ใน จ.ลพบุรี มีการก่อสร้างแล้วเรียบร้อย แต่สัญญาก่อสร้างเกิดขึ้น ส.ค.2564 สร้างก่อนเซ็นเป็นไปได้หรือไม่ รวมถึงกรณีบ้านพักผู้บัญชาการทหารเรือ ภาพ google earth เริ่มรื้อ ก.พ.2562 แต่การประกาศผู้ชนะเสนอราคา ลงวันที่ พ.ค.2562
นอกจากนั้น กรณีวัฒนธรรมลอยนวลเมื่อมีการทุจริตในกองทัพ ยกตัวอย่าง การจัดซื้อจีที 200 ฝ่ายผู้ขายโดนศาลตัดสินให้จ่ายคืนหลายร้อยล้านบาท มีข้าราชการชั้นผู้น้อยอีกมากได้รับคำพิพากษาว่าผิดจริง แต่คนอนุมัติให้ซื้อ คนที่อนุมัติในหลักการลอยนวล ไม่มีใครอยู่ในสำนวนคำฟ้องสักคน ขอถามหาความรับผิดชอบของผู้นำ
รวมถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องนาฬิกา เรื่องนี้พิสูจน์ง่ายนิดเดียว เรามี serial number ทั้ง 20 เรือน ถ้าคืนนี้ท่านไปที่ห้างสรรพสินค้าเอาไปตรวจสอบกับร้านนาฬิกา ไม่แน่ว่า พรุ่งนี้พวกเราอาจจะโหวตไว้วางใจให้ท่าน
แกนที่ 2 ทำลายศักยภาพประเทศไทยในต่างประเทศ ขอชี้แจงว่าการต่างประเทศกับระเบียบของการทูตเป็นคนละเรื่องกัน เพราะการได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมเยือนแขกบ้านแขกเมืองเป็นระเบียบการทูต ส่วนการต่างประเทศก็ต้องยกตัวอย่างการแสดงออกเกี่ยวกับวิกฤตเมียนมา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังคิดว่าเป็นเรื่องภายใน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องถือเป็นเรื่องที่ผิด เพราะองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำลังตรวจสอบว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือไม่
แกนที่ 3 ทำลายศักยภาพของประชาชน ซึ่งก็คือการทำลายเสรีภาพของคนไทยทุกคน ละเมิดสิทธิประชาชนด้วยคดีความที่เป็นการทำลายนิติรัฐ ทำลายกติกาของการอยู่ร่วมกันของสังคมไทย เพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองของตัวเอง โดยเฉพาะที่สำคัญคือการแอบอ้างเรื่องสถาบันทำให้มีคนจำนวนมากถูกดำเนินคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทั้งที่รัฐบาลควรเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้มาตรา 112
นายพิธา กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ ข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทยจำเป็นต้องเป็นคนทำงานเพื่อประชาชนก่อนตัวเอง เป็นคนมีวิสัยทัศน์ มีความสามารถ รอบรู้ รอบด้าน ไม่ว่าจะเรื่องในประเทศหรือต่างประเทศ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เป็นคนที่มีความฝันแต่ไม่เพ้อฝัน พร้อมดึงพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ เข้ามาทำงานร่วมกัน แม้ว่าเขาจะเห็นต่าง แต่เขาพร้อมที่จะรับฟัง พร้อมจะสร้างประเทศที่ดีกว่าไปด้วยกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีคุณสมบัติดังที่กล่าวมา
“เป็นที่พิสูจน์แล้วว่า รัฐนาวาที่ถูกนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้พาเราไปที่ไหน และการเดินทางเหล่านั้นควรจะจบได้ในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป” นายพิธา กล่าว