‘สร้างอนาคตไทย’ แนะรัฐบาลยกปัญหาน้ำมันเป็นวาระแห่งชาติ ‘สนธิรัตน์’ ชี้ดึงกำไรโรงกลั่น ไม่ง่าย หวังทุกกระทรวงร่วมแก้วิกฤติแบบบูรณาการ ตอบโจทย์ความเดือดร้อนประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2565 พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นำโดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงแบบบูรณาการ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สอท.ขอเสนอให้ยกเรื่องน้ำมันเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาแบบบูรณาการ เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันดิบยังคงไม่ลดลงง่ายๆ และจากข้อมูลการวิเคราะห์ของหน่วยงานในต่างประเทศชี้ว่ามีแนวโน้มของการแกว่งตัวไปถึงปีหน้า และบางสำนักคาดการณ์ว่าจะไต่ระดับขึ้นไปแตะ 120-180 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงพลังงานไม่ควรแก้ปัญหาแบบรูทีน เนื่องจากกลไกที่รัฐบาลมีอยู่ในวันนี้ ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา อีกทั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบทะลุ 9 หมื่นล้านบาท
ส่วนความหวังเรื่องขอให้โรงกลั่นนำส่งกำไรลดภาระกองทุนน้ำมันอาจทำได้ไม่ง่าย และอาจได้ไม่เท่าอย่างที่คิด ฉะนั้นวันนี้ กระทรวงพลังงานต้องมีแผนบูรณาการแก้ปัญหาเชิงรุก และแผนระยะยาวที่ชัดเจน
นอกจากนี้ การแก้ปัญหาน้ำมันแพงอย่างเดียวไม่อาจตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชน ทางออกเดียวที่ต้องทำคือยกเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ แล้วบูรณาการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่กระทบเป็นลูกโซ่จากปัญหาดังกล่าว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกัน เช่น กระทรวงพาณิชย์ต้องมีมาตรการเร่งด่วน ในการแก้ปัญหาสินค้าที่พาเหรดกันขึ้นราคา กระทรวงคมนาคมต้องวางมาตรการรองรับเรื่องภาคขนส่งสินค้า และการขนส่งสาธารณะของภาคประชาชน ขณะที่กระทรวงการคลังต้องพิจารณาเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และภาษีอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ และพร้อมต่อการแบกรับได้เท่าไร
“ผลกระทบเรื่องน้ำมันแพงมันเกี่ยวข้องกับปัญหาปากท้องประชาชน เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ การแก้ปัญหาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกัน แต่วันนี้กระทรวงพลังงาน พาณิชย์ คลัง และคมนาคม ต่างคนต่างเดิน หากไม่ร่วมมือกันก็ยากที่จะแก้ไขให้ตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชนได้” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ด้าน นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค สอท. กล่าวว่า มาตรการที่รัฐบาลออกมายังไม่เห็นเป็นรูปธรรม จึงคิดว่า การยกเรื่องนี้ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ ดำเนินการโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรงๆ จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม