ครม.ไฟเขียวขึ้นค่าตอบแทน ‘บอร์ด กสทช.’ แบบเหมาจ่าย ‘ประธาน กสทช.’ รับเงินเดือน 3.61 แสนบาท และค่าเสียโอกาสอีกเดือนละ 89,667 บาท ขณะที่ ‘กรรมการ กสทช.’ ได้รับเงินเดือน 2.89 บาท และค่าเสียโอกาสเดือนละ 71,667 บาท
....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. ....ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เสนอ
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.ฎ.ฉบับดังกล่าว เป็นการปรับปรุง พ.ร.ฎ.ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2556 โดยปรับอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นตามที่กฎหมายบัญญัติ
รวมทั้งกำหนดเพิ่มค่าเสียโอกาสเพื่อสำหรับการดำรงชีพในช่วงระยะเวลาต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งใดๆ หรือไปประกอบอาชีพหรือดำเนินกิจการที่มีลักษณะที่มีส่วนได้เสียหรือมีผลประโยชน์ขัดหรือแย้งไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมกับการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ ตลอดจนกำหนดให้มีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ โดยให้นำพ.ร.ฎว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการและระเบียบกระทรวงการคลังมาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับรัฐมนตรี
สำหรับอัตราค่าตอบแทนใหม่ของประธาน กสทช. และกรรมการ กสทช. มีดังนี้ ประธาน กสทช. ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือน 361,167 บาท/เดือน และค่าเสียโอกาส 89,667 บาท/เดือน ส่วนกรรมการ กสทช. ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือน 289,167 บาท/เดือน และค่าเสียโอกาส 71,667 บาท/เดือน
ส่วนค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ ให้ประธานกรรมการและกรรมการมีสิทธิได้รับ โดยให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ และระเบียบกระทรวงการคลังซึ่งออกตามความในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่ค่าใช้จ่าย อันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการตามพระราชกฤษฎีกานี้โดยอนุโลม โดยให้ประธานกรรมการและกรรมการได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับรัฐมนตรี (คงเดิม)
และให้ประธานกรรมการและกรรมการที่ได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอยู่แล้วในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ตามพระราชกฤษฎีกานี้นับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง (คงเดิม)
“การปรับเพิ่มค่าตอบแทนในครั้งนี้ มิได้ขอรับการสนับสนุนจากงบประมาณแผ่นดิน โดยแหล่งเงินค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ดังกล่าวมาจากรายได้จากการปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ได้แก่ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการประกอบกิจการ ซึ่งที่ผ่านมามีรายได้เพียงพอกับรายจ่าย และมีเงินเหลือจ่ายนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินมาตลอดทุกปี จึงไม่กระทบและเป็นภาระต่อการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินแต่อย่างใด”สำนักงาน กสทช.ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ พ.ร.ฎ.ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2556 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับปัจจุบันนั้น กำหนดให้ประธาน กสทช. ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนจำนวน 335,580 บาท/เดือน และกรรมการ กสทช. ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนจำนวน 269,000 บาท