อธิบดี DSI ยกคณะลงพื้นที่บ้านปางยาง ต.ภูคา อ.ปัว น่าน สางปมกลุ่มชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ต้นน้ำ 300 ไร่ ใช้สารอันตรายปลูกพืชเชิงเดี่ยว เจรจาได้ 4 ข้อสรุปตามแนวนโยบายยุติธรรมสร้างสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 17 มิถุนายน 2565 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมคณะ ลงพื้นที่บ้านปางยาง ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน เพื่อแก้ไขปัญหาสารอันตรายปนเปื้อนลำน้ำย่างและการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนจังหวัดน่าน ตามโครงการอำนวยความเป็นธรรมด้านสิ่งแวดล้อม
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายภาคประชาชน ดีเอสไอว่า มีกลุ่มชาวบ้านทำการบุกรุกพื้นที่ต้นน้ำปางยาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ และมีการใช้สารอันตรายในการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด ทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษลงในลำน้ำย่าง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ด้านล่างได้รับความเดือดร้อน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสืบสวนแล้วไม่พบว่ามีการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ จึงได้ยุติการสืบสวน แต่ชาวบ้านยังคงได้รับความเดือดร้อนอยู่
โครงการอำนวยความเป็นธรรมด้านความมั่นคง ซึ่งดำเนินการตามนโยบายยุติธรรมสร้างสุข จึงได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง ได้แก่ อำเภอปัว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โครงการหลวง นักวิชาการ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามารับฟังและร่วมแก้ไขปัญหา ดังนี้
1. เกษตรกรที่ทำกินในพื้นที่ 300 ไร่ ได้ยินยอมย้ายที่ทำกินลงมาพื้นที่ด้านล่าง
2. อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าปรับปรุงแปลงพื้นที่ปลายน้ำที่กลุ่มเกษตรกรย้ายลงด้านล่าง
3. โครงการหลวง ได้สนับสนุนเตรียมมอบกล้าไม้ผล
4. เกษตรกรรายที่ไม่มีพื้นที่ทำกิน ได้แสดงความต้องการที่จะเลี้ยงวัว กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ทำโครงการรับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธานำไปไถ่ชีวิตวัว และจะได้มอบวัว จำนวน 5 ตัว ให้แก่เกษตรกร ทราบว่าขณะนี้ได้ตกลูกอีก 1 ตัว รวมเป็น 6 ตัว
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ปัญหาด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย ยุติธรรมสร้างสุข มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้นำแนวคิดจากนโยบายดังกล่าว มาพิจารณาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการบำบัดทุกข์ให้กับประชาชน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง นอกจากภารกิจหลักในการบังคับใช้กฎหมายแล้ว ยังคงบริหารงานในการอำนวยความเป็นธรรม การแก้ปัญหาชุมชนสองพื้นที่ที่ขัดแย้งให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ เกษตรกร ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ที่ต้องใช้สารอันตราย มาเป็นอาชีพการปลูกไม้ผลและปศุสัตว์ เลี้ยงวัวและไก่ เสริมรายได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล