ดีเอสไอ เปิดปฏิบัติการลุยทวงคืนพื้นที่ป่านายทุนครอบครองพื้นที่ผิดกฏหมายฝั่งอันดามัน เผยเริ่มปักหมุด จุดอิศราตรวจสอบพบรถแบ็คโฮ' ปริศนา ขุดเปิดหน้าดินเขาลาดชันสูงเขตอิทธิพล 'ฮิตเลอร์'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณีนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ลงพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน กระบี่ พังงา ภูเก็ต ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือนติดกัน และสั่งการให้ศูนย์แผ่นที่สนับสนุนตรวจสอบสวนสืบสวนเก็บรายละเอียดพื้นที่ป่าที่ล่อแหลมต่อการบุกรุกนั้น
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 นายศุภชัย คำคุ้ม ผู้อำนวยศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษ พื้นที่ 8 ได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมกำลังและเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฎิบัติการแผนที่และภูมิสารสนเทศ กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบนำโดยนางสาววันวิสาข์ คำชำนาญ ผู้อำนวยการ นำอากาศยานไร้คนขับ(โดรน)บินวัดพิกัดดาวเทียม ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้นำโดยนายนฤเศรษฐ์ แก้วคง ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามป่าไม้ นายยงยศ หล่อสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า (ส.ป.ฟ.12) สาขากระบี่ นายวาสิต แก้วปลั่ง นักวิชาการที่ดินชำนาญและบริหารเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอกะทู้ นายพิภพ สุดขาว ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอกะทู้ นายอิทธิกร ซีตางค์ ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลกะทู้ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.กองบังคับการ 5 เพื่อสืบสวนตามเลขสืบดีเอสไอ ที่ 109/2656 กรณีการขุดหน้าดิน ใกล้พิกัดที่ N 7 องศา 56 ลิปดา 06.317 ฟิลิปดา E 98 องศา 21 ลิปดา 43.278 ฟิลิปดา ตามที่สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอข่าวการสำรวจพื้นที่บริเวณเขาใกล้สนามกอล์ฟชื่อดัง ณ กลางเกาะเมืองภูเก็ต พบรถแบคโฮ กำลังขุดตักหน้าดิน ใส่รถบรรทุกลำเลียงขนออกไปนอกบริเวณพื้นที่ จากการสอบถามผู้เฝ้าต้นทาง ได้รับแจ้งว่า พื้นที่บริเวณเขาที่มีความลาดชันสูงนี้เป็นของนายทุนใหญ่ ฉายา "ฮิตเลอร์" เป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ แต่จากการสังเกตพื้นที่ทั้งหมดรอบ ๆ บริเวณ ไม่พบว่ามีป้ายแสดงสัญญาลักษณ์ว่า ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมจังหวัด ภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หรือ แม้แต่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต แต่อย่างใด
- ปริศนาภาพ 'รถแบ็คโฮ' ขุดเขา อ.เมืองภูเก็ต ไม่รู้อยู่ในที่ดินของใคร?
- ปมปริศนาภาพ 'รถแบ็คโฮ'! ป่าไม้เจอร่องรอยขุดตักดินในเขตป่าสงวน-ผู้ดูแลแจงมี น.ส.3
- ขีดเส้น7วันหาพิกัดให้ชัด! นอภ.กะทู้ลุยตรวจซ้ำพื้นที่'อิศรา' แฉขุดเขาภูเก็ตไม่ขออนุญาต
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ภายหลังจากที่ได้พิกัดชัดเจนแล้วในช่วงบ่ายวันที่ 7 มิ.ย.65 คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ร่วมกันบันทึกการปฎิบัติการในครั้งนี้ที่สำนักงานของเทศบาลเมืองกะทู้ เพื่อที่จะใช้เป็นหลักฐานในการขยายผลสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดที่ร่วมกันบุกรุกยึดถือครอบครองป่าที่นอกเหนือจากมติคณะรัฐมนตรี โดยใช้จุดเริ่มต้นจากจุดที่เครื่องจักรกลหนักเปิดหน้าที่ดินบริเวณป่าเทือกเขากมลา
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับกรณีนี้ เทศบาลเมืองกะทู้ โดยนายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ เจ้าพนักงานท้องถิ่น ได้มีคำสั่งให้หยุดการขุดดินหรือถมดิน หรือจัดการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหรือจัดการแก้ไขการขุดดินหรือถมดิน ตามมาตรา 31 วรรคหนึ่ง กรณีการขุดดินหรือถมดิน ได้ก่อหรืออาจให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลอื่นไปแล้ว ตามหนังสือเลขที่ ภก 52303/913สำนักงานเทศบาลเมืองกะทู้ ถนนวิชิตสงคาม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต วันที่ 18 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ที่แจ้งถึงเจ้าของที่ดินหรือผู้ครอบครองที่ดิน ผู้ขุดดิน/ผู้ถมหิน/เจ้าของที่ดินตรอก/ซอย อำเภอ/เขต ถนน. กะทู้... กะทู้.จังหวัด ภูเก็ต
ระบุว่า ด้วยปรากฏว่าท่านได้ทำการดินโดยไม่มีใบรับแจ้งขุดดินพรบ.การขุดดินและถมดิน.พ.ศ.2453 ตามมาตรา17 ณ.ที่ดินแปลง นส.3ก..เลขที่ 27,29,30 ตรอก/ซอย ตำบล/แขวง กะทู้ หมู่ที่ ...3....ซึ่งการขุดดิน/ถมดินดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือได้ก่อหรืออาจให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลอื่น อำเภอ/เขต จังหวัด ภูเก็ต. อาศัยอำนาจตามมาตราในมาตรา 31 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 ให้ท่าน ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(ก) หยุดการขุดดิน/ถมดินตั้งแต่บัดนี้ป็นต้นไป จนกว่าจะได้ดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพรบ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2453
(ข) หยุดการขุดดิน/ถมดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะได้จัดการป้องกันความเสียหายที่อาจก่อให้เกิดขึ้นหรือจัดการแก้ไขการขุดดิน/ถมดิน ซึ่งก่อหรืออาจให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลอื่น
(ค) จัดการป้องกันความเสียหายที่อาจขึ้น/จัดการแก้ไขการขุดดิน/ถมดิน ให้เสร็จภายใน7วัน (..เจ็ด..วัน)นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งนี้
แหล่งข่าวจากดีเอสไอให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษ พื้นที่ 8 สืบสวนสอบสวนเอาผิดกับนายทุนที่ครอบครองพื้นที่ป่าโดยผิดกฏหมาย ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากข้อมูลทางลับ พบว่า พื้นที่จังหวัดกระบี่ พังงา และ ภูเก็ต มีนายทุนครอบครองพื้นที่ป่า มากกว่า ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรหรือผู้ยากไร้ ซึ่งมีสิทธิ์อยู่ในพื้นที่ป่าตามมติคณะรัฐมนตรีและมติของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ แต่ไม่ได้ครอบคลุม หรือ ไม่ได้อนุญาตให้นายทุน ที่มีอันจะกิน หรือคนรวยครอบครองพื้นที่ป่าแต่อย่างใด แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบหลายหน่วย ไม่ลงรายละเอียดหรือละเลยที่จะลงรายละเอียดในการครอบครองพื้นที่ป่าของนายทุน ซึ่งการครอบครองพื้นที่ป่าของนายทุน มีความซ้ำซ้อน และ มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง และส่วนใหญ่จะมีอำนาจทางด้านการเงิน
นอกจากนั้นยังพบว่าพื้นที่ภูเขาและพื้นที่สูงที่มีการบุกรุกปลูกยางพารา ทุเรียน สะตอ และ ผลอาสินอื่นๆ ก็เกิดจากการครอบครองพื้นที่รอบภูเขาจากอำนาจของเงินในการคว้านซื้อที่ดิน ที่มีเอกสารสิทธิ์ในเชิงเขา และบุกรุกครอบครองในพื้นที่ลาดชันสูงไว้ทั้งหมดเนื่องจากมีความยากลำบากของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะเข้าตรวจสอบ การใช้อากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ซึ่งเป็นเครื่องมือพิเศษที่สามารถวัดพิกัดทางอากาศได้ และมีความแม่นยำสูงและสามารถที่จะนำเอาระวางที่ดินของกรมที่ดินมาทับซ้อนลงไปภาพถ่ายทางอากาศที่วัดพิกัดโดยอากาศยานไร้คนขับซึ่งเป็นเครื่องมือพิเศษที่ทันสมัยและมีความเที่ยงตรงสูงมาก
"การปฎิบัติการในครั้งนี้จึงพบว่า พื้นที่บนภูเขาที่เป็นเทือกเขามีการบุกรุกครอบครองพื้นที่จำนวนมาก การปฎิบัติการของกรมสอบสวนคดีพิเศษในครั้งนี้ จึงถือว่า เป็นการปฎิบัติการทวงคืนพื้นที่ป่าจากนายทุนที่เกิดจากจุดเริ่มต้นของการขุดหน้าดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา ในพื้นที่เขตอิทธิพลที่มีฉายาฮีตเลอร์" แหล่งข่าวจากดีเอสไอระบุ