นายอำเภอกะทู้ ลุยเอง พาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบซ้ำกรณีภาพปริศนารถแบ็คโฮ 'อิศรา' แฉปัญหาขุดตักดินบนเทือกเขากมลา ภูเก็ต สั่งเร่งรังวัดหาพิกัดให้ชัดเจนภายใน 7 วัน อยู่เขตท้องถิ่นใดกันแน่ หลังพบไม่มีการขออนุญาต แจ้งผู้ประกอบการหยุดชั่วคราว
ความคืบหน้าล่าสุดกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวการสำรวจพื้นที่บริเวณเขาใกล้สนามกอล์ฟชื่อดัง ณ กลางเกาะเมืองภูเก็ต พบรถแบคโฮ กำลังขุดตักหน้าดิน ใส่รถบรรทุกลำเลียงขนออกไปนอกบริเวณพื้นที่ จากการสอบถามผู้เฝ้าต้นทาง ได้รับแจ้งว่า พื้นที่บริเวณเขาที่มีความลาดชันสูงนี้เป็นของนายทุนใหญ่ ฉายา "ฮิตเลอร์" เป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ แต่จากการสังเกตพื้นที่ทั้งหมดรอบ ๆ บริเวณ ไม่พบว่ามีป้ายแสดงสัญญาลักษณ์ว่า ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมจังหวัด ภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หรือ แม้แต่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต แต่อย่างใด
- ปริศนาภาพ 'รถแบ็คโฮ' ขุดเขา อ.เมืองภูเก็ต ไม่รู้อยู่ในที่ดินของใคร?
- ปมปริศนาภาพ 'รถแบ็คโฮ'! ป่าไม้เจอร่องรอยขุดตักดินในเขตป่าสงวน-ผู้ดูแลแจงมี น.ส.3
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 นายอำเภอกะทู้ พร้อม เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการลงพื้นที่มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้ดูแลมีการนำเอกสารสิทธิ์มากล่าวอ้างความถูกต้องของพื้นที่ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มีการรังวัดที่ดินเพื่อหาพิกัดที่ชัดเจนว่าที่ดินดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นรอยต่อระหว่างอำเภอกะทู้ และอำเภอเมืองในส่วนของตำบลเกาะแก้ว ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่จะทำการตรวจสอบแนวเขตให้เรียบร้อยภายใน 7 วัน
อย่างไรก็ดี กรณีการขุดตักหน้าดิน จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการขออนุญาตจากทั้ง 2 ท้องถิ่นแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป เบื้องต้นทางสำนักงานที่ดินจังหวัดจะตรวจสอบแนวเขตที่ดินและเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ทั้ง 3 แปลงว่าอยู่ในพื้นที่เอกสารสิทธิ์และอยู่ในเขตป่าไม้เทือกเขากมลาหรือไม่ให้แล้วเสร็จภายใน7วันเช่นกัน และจะให้ทางท้องถิ่นแจ้งผู้ประกอบการหยุดการขุดดินตักดินไว้เป็นการชั่วคราว
ขณะที่ นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า "วันนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้มีการลงพื้นที่ เบื้องต้นพบว่าบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตเทือกเขากมลา มีพื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ โดยให้ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริเวณดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 จำนวน 3 แปลงรวมประมาณ 40 ไร่เศษ แต่พื้นที่ที่เกิดเหตุพบว่ามีการขุดดิน ถมดินมีประมาณ 4 ไร่"
นายศิวัชฐ์ กล่าวต่อว่า ในการตรวจสอบเบื้องต้นทางส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ไปดูตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดูประกาศของกระทรวงฯ ว่ามีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ายังไม่ได้ขอจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ในรายละเอียดจะได้มีการตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งว่ากรณีนี้เข้าข่ายต้องขอหรือไม่อย่างไร
"ส่วนในเรื่องของการขุดดินถมดิน ตอนนี้แนวเขตที่เกิดเหตุเป็นรอยต่อระหว่างเทศบาลเมืองกะทู้กับ อบต.เกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต ตามคำบรรยายแนวเขตของกระทรวงมหาดไทยยังไม่ชัดเจน เทศบาลกะทู้ยืนยันว่าอยู่นอกเขต แต่ทาง อบต.เกาะแก้วยังไม่ยืนยัน แต่ทั้ง 2 แห่งจะได้มีการไปตรวจสอบอีกครั้งว่าอยู่ในเขตพื้นที่ใด เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทางกฏหมายในเรื่องของขุดดินถมดิน ซึ่งจะรายงานให้ทางจังหวัดทราบภายใน 7 วัน"
"ในส่วนของป่าไม้ก็จะดำเนินการตรวจสอบว่าอยู่ในเขตหรือนอกเขต น.ส.3 ที่อ้างสิทธิครอบครอง ถ้าอยู่นอกเขตฯ ทางป่าไม้ก็จะไปดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ต่อไป" นายอำเภอกะทู้ กล่าว