เปิดเอกสาร ครม. ก่อนอนุมัติงบกลาง 399 ล้าน พีอาร์ไทยเจ้าภาพ‘เอเปค’ พ่วงประชาสัมพันธ์ ‘ผลงานรัฐบาล’ ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ‘สำนักนายกรัฐมนตรี -กรมประชาสัมพันธ์’ ย้ำเป็นเรื่อง 'จำเป็นเร่งด่วน'
...............................
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติจัดสรรงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ปี พ.ศ.2565 และผลงานสำคัญของรัฐบาล วงเงิน 399.57 ล้านบาท ของกรมประชาสัมพันธ์ ตามที่สำนักงานรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ โดยให้เบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่นลักษณะค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการพิจารณาวาระดังกล่าว สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม. ว่า เนื่องจากกรมประชาสัมพันธ์มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโครงการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ปี พ.ศ.2565 และผลงานสำคัญของรัฐบาล หากไม่ได้รับงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย
“การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ปี 2565 นี้ ใช้เวลาเกือบ 20 ปี ที่เวียนมาอีกครั้งหนึ่ง จึงนับเป็นช่วงเวลาที่จะให้คนไทยทั้งประเทศและทั่วโลก ไม่เฉพาะแต่สมาชิกของเขตเศรษฐกิจเอเปค 21 เขต ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมในทุกๆ ด้านของประเทศไทย โดยใช้โครงการประชาสัมพันธ์ดังกล่าว สะท้อนความเชื่อมั่นที่ 21 เขตเศรษฐกิจมีต่อประเทศไทย
รวมทั้งประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับจากโอกาสนี้ เชื่อมโยงไปถึงความสำเร็จจากการทำงานอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิต จัดสวัสดิการของรัฐ ดูแลตั้งแต่เกิดจนตาย ให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจอย่างถูกต้อง ลึกซึ้ง ถึงที่มาที่ไปและเหตุผลในการแก้ปัญหาของรัฐบาล โดยสื่อของรัฐอาจจะเผยแพรไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
ดังนั้น โครงการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ปี พ.ศ.2565 และผลงานสำคัญของรัฐบาล ได้กำหนดให้มีผลผลิตเผยแพร่ไปสู่สายตาคนไทยและคนทั้งโลกในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบดังกล่าวร้อยรวมไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ รับรู้ผลงานของรัฐบาลและเชื่อมั่นรัฐบาลและประเทศไทย” สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
นอกจากนี้ จากเอกสารที่มีการนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ในวาระการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ปี พ.ศ.2565 และผลงานสำคัญของรัฐบาล ซึ่งลงนามโดยนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ระบุถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ ครม. ต้องอนุมัติจัดสรรงบดังกล่าวให้ กรมประชาสัมพันธ์ โดยมีเนื้อหาว่า
“กรมประชาสัมพันธ์ มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนถึงที่มาที่ไปและเหตุผลในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล รวมทั้งความสำคัญของการเป็นเจ้าภาพเอเปค ประโยชน์ที่ประเทศไทยและประชาชนจะได้รับจากกรอบความร่วมมือเอเปค ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นส่งผลให้มีรายได้เข้าประเทศ รวมถึงส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกทางด้านเศรษฐกิจของไทย จึงเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นเร่งด่วนที่กรมประชาสัมพันธ์ในฐานะหน่วยงานสื่อภาครัฐ ต้องเร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานสื่อทุกภาคส่วนของประเทศ”
ทั้งนี้ ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ ให้กรมประชาสัมพันธ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปดำเนินการ คือ ให้เบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับทางราชการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าของงบประมาณ และความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกทางด้านเศรษฐกิจของไทยและบทบาทของไทยในประชาคมโลก
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจเอเปค (APEC 2020) จะจัดที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.2565 แต่ก่อนหน้านั้นจะมีการประชุมในหลายเวที เช่น การประชุมรัฐมนตรีคลังเอเปค (FMM) ระหว่างวันที่ 19-21 ต.ค.2565 , การประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่อง SME ระหว่างวันที่ 5-10 ก.ย.2565 และการประชุมรัฐมนตรีการท่องเที่ยวเอเปคครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 14-20 ส.ค.2565 (อ่านประกอบ : APEC 2022 meetings)