ศบค.เคาะปรับพื้นที่เหลือแค่สีเหลือง 65 จังหวัด นำร่องท่องเที่ยว 12 จังหวัด ปรับเวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึงเที่ยงคืน พร้อมลดวันกักตัวเหลือ 5+5 วัน ยกเลิก Test and Go ใช้เพียงการตรวจ ATK สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบ เริ่ม 1 พ.ค.นี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มพื้นที่สีเหลือง หรือ พื้นที่เฝ้าระวังสูง เป็น 65 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่สีฟ้า (พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว) เป็น 12 จังหวัด โดยเพิ่มจังหวัด สงขลา และ ระยอง นอกจากนี้นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. จะไม่มีพื้นที่สีส้ม หรือ พื้นที่ที่ควบคุมสูง
สำหรับการปรับมาตรการในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว และพื้นที่เฝ้าระวังสูง โดยจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ไม่เกิน 24.00 น. และต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และตามมาตรการ COVID Free Setting
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบ การลดวันกักตัวสำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงกับผู้ป่วย / ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นกักตัว 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน พร้อมทั้งตรวจหาเชื้อด้วย ATK
ส่วนการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ให้เป็นไปตามความเหมาะสม และการพิจารณาของหน่วยงาน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.ยังได้เห็นชอบยกเลิกระบบ Test and go ให้เหลือเพียงกลุ่มที่ได้รับวัคซีนและไม่ได้รับวัคซีน โดยการปรับมาตรการผู้เดินทางเข้าประเทศไทย สำหรับผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และผู้ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบตามเกณฑ์ เริ่ม 1 พ.ค.2565
โดยยกเลิกการตรวจ RT-PCR สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศและได้รับฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์แล้ว และแนะนำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ตรวจ ATK ในช่วงระหว่างอยู่ประเทศไทย และหากพบว่าติดเชื้อจะเข้าทำตามกระบวนการต่อไป
ในส่วนผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือได้รับแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ ต้องกักตัว 5 วัน และ ให้ตรวจหาเชื้อโควิด ด้วยวิธี RT-PCR ในวันที่ 4-5 ที่เดินทางมาถึงประเทศไทย และแนะนำให้ตรวจ Self-ATK ระหว่างพำนัก หากพบเชื้อฯ ให้เข้าสู่กระบวนการตามประกันภัย หรือตามความรับผิดชอบของบุคคล
กรณีเป็นผู้เสี่ยงสูง ผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และผู้ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบตามเกณฑ์ กักตัว 5 วัน + สังเกตอาการ 5 วัน แนะนำให้ตรวจATK วันที่ 5 และ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
อีกทั้งได้ปรับลดวงเงินประกันสำหรับผู้เดินทางทั้งสองกลุ่ม จากไม่ต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐฯ เหลือไม่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมรับทราบจากสธ.และกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)และเห็นชอบ เรื่องมาตรการเตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 เพื่อให้เปิดเรียนOn-site อย่างปลอดภัย ประกอบด้วย 1.สถานศึกษาประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ผ่าน TSC+ 2.นักเรียนอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น (เข็ม3) ผ่านระบบสถานศึกษาและเร่งฉีดวัคซีนโควิด19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก
อย่างไรก็ตาม นักเรียน ครู บุคลากร จะต้องปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อย่างเคร่งครัด อาทิ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100 % ล้างมือ ตรวจหาเชื้อด้วยATK เมื่อมีอาการหรือเสี่ยง หลีกเลี่ยงรวมกลุ่มกัน และกรณีนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด