ดีเอสไอ โชว์หมายศาลกระบี่ ลุยตรวจค้น 9 บ้าน อดีตผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด หาหลักฐานเชื่อมโยงข้อร้องเรียนคดีทุจริตหลายประเด็น ตั้งแต่ปล่อยสินเชื่อผิดวิสัยการทำธุรกิจโดยทั่วไป ตั้งบริษัทรับซื้อกิจการโรงกลั่นน้ำมัน ซื้อที่ดินตั้งโรงงานราคาที่สูงเกินจริง เปิดโอกาสฮั้วสร้างโรงงาน (สาขาคลองท่อม) น่าเชื่อว่าสถาบันการเงินร่วมด้วย เหตุมีการปล่อยกู้ 100 เปอร์เซ็น
สืบเนื่องจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์เครือข่ายของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมาและสั่งการให้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการเจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวน จนพบการกระทำความผิดของอดีตผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ตั้งแต่ชุดที่ 19 ที่ผ่านมา จึงได้เสนอคณะกรรมการคดีพิเศษและคณะกรรมการรับเป็นคดีพิเศษ นายไตรยฤทธิ์ จึงได้แต่งตั้ง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ต.ท.บรรจบ อยู่ยืนยง รองผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ นายศุภชัย คำคุ้ม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคพื้นที่ 8 และพนักงานสอบสวนรวม 31 ราย เป็นคณะพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 พ.ต.ต.ยุทธนา รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ) ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีฮั้วประมูล นายศุภชัย คำคุ้ม ผอ.ศปพ.พื้นที่ 8 พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ และ นายเอกชาติ บูรณะชัย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ) นำกำลัง ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กองปฏิบัติการพิเศษ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาพ DSI เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำโดย นายวัฒนชัย อาภรณ์ นักนิติวิทยาศาสตร์ชำนาญการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ นำหมายศาลจังหวัดกระบี่เข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านพัก ประกอบด้วย
1. อดีตประธานคณะกรรมการ นายสมคิด พรหมเจริญ 127 ม.3 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่
2. อดีตผู้จัดการใหญ่ นายประชิด แสงขวัญ 27 ม.3 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
3. อดีตเลขานุการคณะกรรมการ นายชาตบุญ บุญชู 5/3 ม.4 ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
4. อดีตรองประธานกรรมการและคณะกรรมการ นายสุเทพ ทองชัย 90/3 ม.7 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่
5. อดีตผู้ตรวจสอบกิจการ นายอุดม เอียดอ่อน 122 ม.3 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
6. อดีตคณะกรรมการ นายประยงค์ จินาวงศ์ 157 ม.5 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่
7. อดีตรองประธานกรรมการ นายปกครอง ชูศรี 85/1 ม.2 ต.ดินอุดม อ.ลำทับ จ.กระบี่
8. อดีตรองประธานกรรมการ นายปราโมทย์ ไหมทอง 226/46 ม.2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่
9. อดีตคณะกรรมการ นายสมปอง นวลสมศรี 261/1 ม.5 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่
ผลการตรวจค้นพบสมุดบันทึกบัญชีรับจ้างขนส่งน้ำมันปาล์ม และบัญชีขนน้ำมันปาล์ม รายการเสนอราคาค่าขนน้ำมันปาล์ม รายงานประจำปีของคณะกรรมการสหกรณ์ในปีที่เกี่ยวข้องกับมูลเหตุคดี เอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวนหลายรายการ ซึ่งกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ได้ดำเนินการยึด/อายัด เพื่อนำมาตรวจสอบและจะเร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคล/นิติบุคคล ผู้กระทำความผิด โดยจะมีการขยายผลต่อไป และเห็นว่าเป็นคดีสำคัญที่กระทบความเสียหายต่อประชาชนและสหกรณ์เป็นวงกว้าง
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นความร่วมมือกันในการแก้ปัญหาการทุจริตในสหกรณ์และเป็นกรณีตัวอย่างให้ผู้บริหารสหกรณ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศให้พึงสังวรว่า สหกรณ์เป็นของสมาชิก ผู้บริหารสหกรณ์ต้องบริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อสมาชิก
รายงานข่าวแจ้งว่า สมาชิกชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด มีทั้งสิ้น 16,260 ครอบครัว และสมาชิกสหกรณ์เครือข่ายอีก 34 สหกรณ์ จำนวน 36,872 ครอบครัว สำหรับ พฤติกรรมการบริหารของผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด มีพฤติกรรมมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายทะเบียนสหกรณ์ อันเป็นเหตุให้ชุมนุมฯ ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ต้องหยุดกิจการชั่วคราวและมีการเลิกจ้างพนักงาน เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้บริหารบางรายผูกขาดในการขนย้ายน้ำมัน บางรายมีการปล่อยสินเชื่อผิดวิสัยของการทำธุรกิจโดยทั่วไป บางรายมีพฤติกรรมไปจัดตั้งบริษัท เพื่อมาซื้อกิจการโรงกลั่นน้ำมันของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ส่อทุจริตตั้งแต่การซื้อที่ดินในการตั้งโรงงานในราคาที่สูงเกินจริง และมีพฤติกรรมเปิดโอกาสให้มีการฮั้วในการสร้างโรงงาน (สาขาคลองท่อม) น่าเชื่อว่ามีสถาบันการเงินร่วมด้วย เนื่องจากมีการปล่อยกู้ 100 เปอร์เซ็นต์