ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 27,071 ราย อาการหนัก 1,402 ราย สะสม 3.27 ล้าน ส่วน ATK เป็นบวก 23,157 ราย ทำให้ยอดรวมวันนี้อยู่ที่ 27,071 ราย ขณะที่หายกลับบ้าน 21,522 ราย ส่วนเสียชีวิต 80 ราย เป็นกลุ่ม 608 ถึง 97% โดยพบเชื้อวันเสียชีวิต 4 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2565 นพ.ทวีศิบป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 27,071 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 26,919 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 26,826 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 93 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 103 ราย อีก 49 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 3,303,169 ราย
ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้อยู่ที่ 23,157 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมสูงถึง 27,071 ราย
หายป่วยเพิ่ม 21,522 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 230,603 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,391 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 511 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 80 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 24,075 ราย
ด้านผู้เสียชีวิต 80 ราย มาจาก กทม. 14 ราย ปริมณฑล 7 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7ราย ภาคเหนือ 11 ราย ภาคใต้ 13 ราย และภาคกลาง 13 ราย แบ่งเป็นชาย 39 ราย หญิง 41 ราย อายุระหว่าง 30 - 101 ปี ค่ามัธยฐานวันที่พบเชื้อ-เสียชีวิต 7 วัน และพบเชื้อวันเสียชีวิต 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 คิดเป็น 97% จำแนกเป็น ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี 67 ราย คิดเป็น 87% ป่วยเรื้อรัง 8 ราย คิดเป็น 10% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 3% สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ มีโรคประจำตัว โดยติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว และอยู่ในพื้นที่ระบาด
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 3,252 ราย นครศรีธรรมราช 1,717 ราย ชลบุรี 1,256 ราย สมุทรปราการ 976 ราย สมุทรสาคร 942 ราย พระนครศรีอยถธยา 677 ราย ฉะเชิงเทรา 656 ราย ปทุมธานี 653 ราย นครปฐม 642 ราย และระยอง 628 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 72,486 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 19,039 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 95,087 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 126,799,701 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 54,663,051 ราย คิดเป็น 78.6% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 50,057,356ราย คิดเป็น 72.0% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 22,079,294 ราย คิดเป็น 31.7%
เดินทางเข้าไทยติดเชื้อใหม่ 49 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 49 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 23 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 5 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 17 ราย และแบบลักลอบ 4 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน มี.ค. สะสมรวม 1,081 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 707 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 321 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 53 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 2.07 ล. รวมสะสม 466.47 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 2,073,149 ราย รวม 466,472,159 ราย อาการหนัก 63,376 ราย หายป่วย 397,879,055 ราย เสียชีวิต 6,087,899 ราย โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 7 วันย้อนหลัง 2,710,942 ราย สะสม 8,657,609 ราย เยอรมนี พบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 7 วันย้อนหลัง 1,503,919 ราย สะสม 18,140,525 ราย เวียดนาม พบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 7 วันย้อนหลัง 1,258,931 ราย สะสม 7,174,423 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 17 ของโลก
ไทยป่วยโควิดใหม่ 27,071 เสียชีวิต 80 ราย เป็นผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม 18 ราย
เมื่อเช้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 27,071 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 27,022 ราย อีก 49 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมตั้ง 1 ม.ค. 1,079,734 ราย
โดยมีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 21,522 ราย สะสมรวมตั้ง 1 ม.ค.879,99 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 230,603 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,391 ราย และใช้ท่อช่วยหายใจ 511 ราย
ขณะที่เสียชีวิตเพิ่ม 80 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและป่วยเรื้อรัง (608) 77 ราย คิดเป็น 96% เป็นโรคไตระยะสุดท้าย 16 ราย เป็นมะเร็ง 7 ราย เป็นผู้ป่วยติดเตียง 15 ราย ส่วนไม่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม 62 ราย และได้รับวัคซีนสองเข็มแล้ว 18 ราย
โดยมีอาการติดเชื้อในปอดชัดเจน 77 ราย และไม่มีอาการติดเชื้อในปอด 3 ราย