ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สำรอง บัวพร' อดีตนายก อบต.เมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน ศรีษะเกษ ทุจริตจัดซื้อเมล็ดพันธุ์พืช-ฝึกอบรมส่งเสริมพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน พวก 2 ราย โดนคนละ 6 เดือน ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสำรอง บัวพร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีษะเกษ กับพวก 2 ราย คือ นางสาวรัตนาวดี ปุยอบ และนางอรุณรัตน์ กระสังข์ ทุจริตในโครงการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อมอบให้แก่ชาวบ้านปี 2549 และโครงการฝึกอบรมและส่งเสริมพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ปี 2550
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และ 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 90 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่พิพากษาว่า นายสำรอง บัวพร จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 นางสาวรัตนาวดี ปุยอบ จำเลยที่ 2 และ นางอรุณรัตน์ กระสังข์ จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 157
ลงโทษจำคุก นายสำรอง บัวพร จำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี
จำคุก นางสาวรัตนาวดี ปุยอบ จำเลยที่ 2 และ นางอรุณรัตน์ กระสังข์ จำเลยที่ 3 คนละ 1 ปี
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้จำเลยทั้งสามคนละกึ่งหนึ่ง ตามาตรา 78
คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 คนละ 6 เดือน
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- คุกคนละ 5 ปี! อดีตนายกวังไทร โคราช-พวก ล็อกสเปกซื้อรถบรรทุกน้ำเอื้อเอกชน
- ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษคุก 5 ปี อดีตนายก อบต.เวียง เชียงราย หาประโยชน์ 'ส่วนต่าง' ขายที่ดิน
- ยืนโทษคุก 50 ปี! อดีตนายกฯ อุทัย อยุธยา จ่ายค่าตอบแทนลูกสาวนั่งเลขาฯ ทั้งที่มิได้ทำงาน
- คุก 4 ปี 12 ด.! อดีตธุรการ รพ.คำม่วง กาฬสินธุ์ ทุจริตเบียดบังเงินทดรองราชการ