ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 24,592 ราย อาการหนัก 1,255 ราย สะสม 3.13 ล้าน ส่วน ATK เป็นบวก 20,385 ราย ทำให้ยอดรวมวันนี้อยู่ที่ 44,977 ราย ขณะที่หายกลับบ้าน 21,371 ราย ส่วนเสียชีวิต 68 ราย เป็นทารก 11 เดือน 1 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2565 ศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 24,592 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 24,540 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 23,712 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 677 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 151 ราย อีก 52 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 3,161,241 ราย
ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้อยู่ที่ 20,385 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมสูงถึง 44,977 ราย
หายป่วยเพิ่ม 21,371 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 226,151 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,312 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 435 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 68 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 23,643 ราย
ด้านผู้เสียชีวิต 68 ราย มาจาก กทม. 12 ราย ปริมณฑล 8 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 ราย ภาคเหนือ 7 ราย ภาคใต้ 19 ราย และภาคกลาง 14 ราย แบ่งเป็นชาย 38 ราย หญิง 30 ราย อายุระหว่าง 11 เดือน - 107 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 คิดเป็น 95% จำแนกเป็น ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี 53 ราย คิดเป็น 78% ป่วยเรื้อรัง 10 ราย คิดเป็น 15% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 7% สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ มีโรคประจำตัว โดยติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว และอยู่ในพื้นที่ระบาด
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,985 ราย ชลบุรี 1,203 ราย นครศรีธรรมราช 1,148 ราย สมุทรปราการ 767 ราย ปทุมธานี 707 ราย พระนครศรีอยุธยา 675 ราย สงขลา 619 ราย และนครปฐม 614 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 111,746 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 28,289 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 133,797 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 125,862,893 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 54,299,065 ราย คิดเป็น 78.1% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,965,129 ราย คิดเป็น 71.8% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 21,598,699 ราย คิดเป็น 31.1%
เดินทางเข้าไทยติดเชื้อใหม่ 52 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 52 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 22 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 9 ราย และแบบกักตัว (Quarantine) 21 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน มี.ค. สะสมรวม 879 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 566 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 274 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 39 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.68 ล. รวมสะสม 455.51 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,689,274 ราย รวม 455,511,952 ราย อาการหนัก 66,411 ราย หายป่วย 389,032,204 ราย เสียชีวิต 6,057,847 ราย โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,864,300 ราย สะสม 6,206,277 ราย เยอรมนี พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,302,468 ราย สะสม 16,881,948 ราย เวียดนาม พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,107,609 ราย สะสม 5,448,935 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 19 ของโลก
ไทยป่วยโควิดใหม่ 24,592 เสียชีวิต 68 ราย เป็นผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม 27 ราย
อนึ่งเมื่อเวลา 08.23 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 24,592 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 24,540 ราย อีก 52 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมระลอก ม.ค. 937,806 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 21,371 ราย สะสมรวมระลอก ม.ค. 742,953 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 226,151 ราย
ขณะที่เสียชีวิตเพิ่ม 68 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและป่วยเรื้อรัง (608) 56 ราย คิดเป็น 82% เป็นโรคไตระยะสุดท้าย 13 ราย เป็นมะเร็ง 4 ราย เป็นผู้ป่วยติดเตียง 5 ราย ส่วนไม่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม 41 ราย และได้รับวัคซีนสองเข็มแล้ว 27 ราย
โดยมีอาการติดเชื้อในปอดชัดเจน 55 ราย และไม่มีอาการติดเขื้อในปอด 10 ราย